ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมานานผิดปกติ ทานยาคุมกำเนิดเพื่อรักษาแล้วแต่ยังมีอาการอยู่ ยาคุมที่กินเข้าไปทำให้เลือดออกมากขึ้นได้ไหม

  •  salisa
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีว่าเป็นประจำเดือนนานกว่าปกติ คือมีรอบเดือนนานเกิน 10 วันจึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลค่ะ เบื้องต้นได้ตรวจดูแลหมอสูติบอกแค่ว่าเพราะฮอร์โมนผิดปกติ คล้ายอาการไข่ไม่ตก ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัวได้ไม่เต็มที่ จึงมีเลือดประจำเดือนออกมาเริ่มจากน้อยและมากขึ้นเรื่อยๆ เบื้องต้นคุณหมอแนะนำให้รับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมยี่ห้อใดก็ได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 3-6 เดือน (EE 0.02 + detrogestrel 0.15) ยี่ห้อเดิมติดต่อกัน 2 เดือนแล้วค่ะ ตอนไปพบแพทย์สูติตอนนั้นเสียเลือดจนมีภาวะซีดเล็กน้อย ตรวจแล้วไม่มีความผิดปกติอะไร อาการที่เกิดขึ้นก็ยังเหมือนเดิม ตอนนี้รับประทานยาคุมกำเนิดเข้าแผงที่ 3 แต่รู้สึกอาการไม่ดีขึ้นเลยค่ะ ต้องใช้ผ้าอนามัยอยู่ตลอดทุกวัน (มีช่วงประจำเดือนหยุดหายไปแค่ 7 วัน นอกนั้นมาทั้งเดือน) อยากทราบว่าควรเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิดให้มีฮอร์โมนสูงขึ้นจะมีผลในเรื่องประจำเดือนนานผิดปกติไหมคะ
    salisa  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ salisa

    การมีเลือดออกมาผิดปกติทางช่องคลอดอาจมีสาเหตุจาก ฮอร์โมนจากรังไข่ที่ผิดปกติ การมีเนื้องอกในรังไข่ชนิดสร้างฮอร์โมน เนื้องอกในมดลูกหรือปากมดลูก หรือเป็นการติดเชื้อที่ช่องคลอดหรือปากมดลูก การมีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ

    ควรรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศตามที่แพทย์สั่ง การใช้ฮอร์โมนจากภายนอกเข้าไป จะเข้าไปควบคุมฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้รอบเดือนมาตามปกติได้ แต่หากกินติดต่อกันถึง 3 แผงแล้วยังมีอาการเป็นมากเหมือนเดิม ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อแจ้งให้ทราบ ตรวจร่างกายหรืออัลตราซาวน์หน้าท้องซ้ำอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุอื่นๆที่อาจจะเป็นไปได้ดังกล่าวไป

    การใช้ยาคุมกำเนิดคงไม่ได้ทำให้เลือดออกมากผิดปกติค่ะ คือฮอร์โมนที่ได้เข้าไปจะไปควบคุมการทำงานของร่างกาย ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายที่อาจจะยังสร้างไม่ปกติกลับมาเป็นปกติ แต่ไม่ได้เพิ่มฮอร์โมนเพศเข้าไปโดยตรง แต่หากมีสาเหตุอื่นๆที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข การใช้ยาคุมเพียงอย่างเดียวก็อาจจะยังไม่หาย