ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์รวม 4 ครั้ง มีทานยาคุมฉุกเฉินไป 1 ครั้ง ได้ตรวจหาการตั้งครรภ์แล้วไม่ท้อง แต่ประจำเดือนขาดมา 1 สัปดาห์แล้ว และมีตกขาว

  •  Kk2343
    สมาชิก
    อยากจะสอบถามอะค่ะ ก่อนหน้านี้ได้มี เพศสัมพันธ์มา 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือนเม.ยถึงพ.คค่ะ ซึ่งครั้งแรกเราทำหน้าเจ็ด(ก่อนมีประจำเดือน3วัน)แต่ใส่ถุงนะคะ ตรวจสอบดูแล้วถุงไม่รั่วค่ะ แล้ววันที่มีประจำเดือน ประจำเดือนมาปกติค่ะ 4วัน ครั้งที่2 มีในวันตกไข่แต่ใส่ถุงยางและกินยาคุมฉุกเฉินตามเวลา ครั้งที่3 มีวันก่อนจะเป็นประจำเดือน 1 วันค่ะ ใส่ถุงยางเช่นกัน พอประจำเดือนมา รอบนี้มาน้อย มาแค่2วันค่ะ แต่หลังจากทำครั้งที่3 เริ่มมีอาการมวยท้องแบบท้องอืดตลอดทั้งเดือน แต่ปวดไม่มาก ปวดอ่อนๆ จนครั้งที่4มีตอนปลายเดือน พ.ค ค่ะ ใส่ถุงเหมือนเดิม โดยที่ทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ เราจะคอยตรวจที่ตรวจครรภ์ตลอด แต่พบว่าไม่ท้องทุกครั้ง พอมาจะถึงรอบประจำเดือนนี้ ประจำเดือนกลับไม่มา แต่มีน้ำใสๆไหลออกมาจากช่องคลอดแทนค่ะ ไหลตลอดทั้งวันเหมือนมีประจำเดือนเลย มีอาการปวดท้องอ่อนๆอยู่ โดยตัวเราเป็นคนมีน้ำหนักเยอะพอควร(ประมาน70+) และช่วงนี้ออกกำลังกายแบบวันเว้นวันโดยออกบริเวณต้นขาและหน้าท้อง และอยากทราบว่า พวกนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาหรือป่าวคะ และทำไมน้ำใสๆถึงออกมาแทนประจำเดือน

    สวัสดีค่ะ คุณ Kk2343,

                        การมีเพศสัมพันธ์ในครั้งที่ 1 หากหลังจากนั้น ได้มีประจำเดือนมาแล้ โดยมาในช่วงวันที่ที่ควรจะมา และมานาน 4 วัน ก็ถือว่าปกติดี และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ 

                        ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งที่ 2 หากได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน และทานยาคุมฉุกเฉินไป โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยมาก

                        ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งที่ 3 หากได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยอยู่ค่ะ   

                         หลังจากนั้น หากได้มีเลือดออกมา หากไม่ใช่ช่วงวันที่ที่ประจำเดือนควรจะมา ก็อาจเป็นเลือดที่เกิดจากผลของยาคุมฉุกเฉินได้ แต่หากอยู่ในช่วงวันที่ที่ประจำเดือนคงจะมา ก็ถือเป็นเลือดประจำเดือนได้ค่ะ

                         สำหรับการมีเพสสัมพันธ์ในครั้งที่ 4 หากได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยเช่นกันค่ะ

                          ส่วนการตรวจหาการตั้งครรภ์นั้น โดยปกติ ควรตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ดังนั้น หากการตรวจครั้งสุดท้าย ยังไม่ถึง 2 สัปดาห์ นับจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์ไปล่าสุดเมื่อปลายเดือน พ.ค. ก็ควรตรวจซ้ำอีกครั้งที่ 2 สัปดาห์ค่ะ หากตรวจไม่พบ ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ดังนั้น การที่ประจำเดือนยังไม่มา ก็อาจเป็นผลจากยาคุมฉุกเฉินที่ทานไป หรือเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้น แนะนำควรรอประจำเดือนไปอีกซักระยะ ประจำเดือนก็น่าจะมาในที่สุดค่ะ

                            สำหรับน้ำใสๆ ที่ไหลจากช่องคลอด ก็คือตกขาว ซึ่งหากไม่ได้มีกลิ่นเหม็น ไม่ได้มีแสบหรือคันช่องคลอดร่วม ก็ไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไรค่ะ แต่หากตกขาวมีปริมาณมากทุกวัน และมีอาการปวดท้องน้อยมากร่วมด้วย อาจเกิดจากการมีมดลูกอักเสบได้ หรือหากตกขาวตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือมีแสบหรือคันในช่องคลอด ก็อาจเกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อรักษาค่ะ