ถามแพทย์

  • กินยาคุมไป 1 สัปดาห์แล้วหยุดกิน หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ มีประจำเดือนมา เกิดจากอะไร แล้วจะเริ่มทานยาได้อีกเมื่อไหร่

  •  โย กัง
    สมาชิก

    อาการคือ ตอนบาคุมแผงสุดท้ายหมด ปจด.ก็มาปกติ และพอต้องเริมยาคุมแผงต่อไปเรากินไปได้แค่ 1 อาทิต แล้วก็เลิกกิน หลังจากเลิกกิน 1 อาทิต ก็มี ปจด.มาอีกรอบค่ะ สาเหตุที่เลิกกินยาคุมคือ ช่วงเดือนนี้เราลืมกินกินไม่ตรงเวลาเลยอยากพักก่อน 1 เดือน และกะว่าเดือนต่อไปจะกลับมากิน แต่ ปจด.ดันมา 2 รอบ เลยไม่แน่ใจว่าเราต้องกินยาคุมแผงใหม่ต่อเลยหลัง ปจด.รอบ 2 หมดหรือเปล่าคะ และอาการ ปจด.มา 2รอบใน1เดือน เกิดจากอะไรคะ 

    อีก1คำถามค่ะ พี่สาวเราบอกว่าก่อนท้อง แกก็มีอาการ ปจด.มา2 รอบเหมือนกันค่ะ เราจะมีโอกาสท้องเร็วแบบพี่สาวมั้ยคะ และการกินยาคุมแบบไม่ประติดต่อ ส่งผลเสียอะไรหรือเปล่าคะ

     

    #ขอคุณลวงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ 

    สวัสดีค่ะ คุณ โย กัง,

                            การหยุดทานยาคุมกำเนิด ไม่ว่าจะทานไปถึงเม็ดใดก็ตาม เมื่อหยุดไปแล้วประมาณ 3-4 วัน (หรืออาจเป็น 1 สัปดาห์ก็ได้) ย่อมมีเลือดออกมา ซึ่งเกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัวออกมาจากการขาดฮอร์โมนของยาคุมกำเนิดที่ไปกระตุ้น ดังนั้นการมีเลือดออกหลังจากหยุดทานยา 1 สัปดาห์ดังกล่าว จึงถือเป็นสิ่งที่ควรพบเป็นปกติค่ะ

                           ส่วนโอกาสในการตั้งครรภ์นั้น หากได้มีเพศสัมพันธ์หลังจากที่หยุดทานยาไปแล้ว ย่อมมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากเมื่อหยุดทานยาคุม ยาก็จะหมดฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ทันที

                            หากต้องการที่จะคุมกำเนิดต่อ ในช่วงนี้ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อน และรอให้ประจำเดือนในรอบถัดไปมาเสียก่อน (ซึ่งเป็นประจำเดือนจริงๆ ที่เกิดจากการทำงานของรังไข่) แล้วจึงเริ่มทานยาคุมภายในไม่เกิน 5 วันนับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา