ถามแพทย์

  • น้องสาวเป็นโรค SLE หรือภูมิแพ้ตัวเอง กินยาไม่ต่อเนื่อง ตอนนี้มีอาการหลอน เพ้อเจ้อ หลงผิด เกิดจากอะไร

  •  Thiphanan Senanorit Eve
    สมาชิก

    น้องได้เข้ารักษาอาการอีกครั้งเนื่องจากอาการทรุดตัว มีอาการเป็นแผลตามมือตามเท้า ขณะที่นอนรพ. น้องสาวมีอาการปวดหัวรุรแง ทานยาแก้ปวดก็ไม่หายจนพยาบาลต้องฉีดยาเข้าเส้น (ไม่แน่ใจว่ายาแก้ปวดหรืออะไร) และฉีดอีกเข็ม เข็มนั้นคือยาที่จะฉีดก่อนจะไปสแกนสมอง หลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้นจนกลับบ้านได้ และได้รับยามาทาน

        หลังจากที่กลับมาบ้าน น้องก็มีการกินยาผิดบ้าง ไม่กินบ้าง จนตอนนี้เกิดอาการหลอน พเพ้อเจ้อ เช่น บอกกับพ่อแม่ว่า คนที่รักษาหนูคือเทวดาบ้าง ชี้หน้าด่าพ่อว่าแม่บ้าง จพระแม่คงคาโกรธบ้างต้องไปลอยผมลอยเล็บจนครับ 3 ครั้งบ้าง    อยากทราบว่าอาการแบบนี้เกิดจากยาด้วยรึป่าวคะ? หรือมีทางรักษาอย่างไรบ้างมั้ยคะ ?

    Thiphanan Senanorit Eve  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Thiphanan Senanorit Eve

    โรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองนั้น เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายมีความผิดปกติ โดยภูมิคุ้มกันจะต่อต้านและทำลายเนื้อเยื่ออวัยวะต่าง ๆ จนเกิดเป็นอาการอักเสบเรื้อรัง ทำให้มีอาการป่วยรู้สึกเหนื่อยล้า มีผื่นแดงตามใบหน้า ตาแห้ง ตัวบวม ขาบวม ปวดหัว ปวดบวมตามข้อต่อกระดูก ผมร่วง หรือมีอาการทางระบบประสาททำให้มีประสาทหลอน สับสน ได้เช่นกัน

    ดังนั้นหากกินยาไม่ครบถ้วน หรือไม่เป็นไปตามที่แพทย์สั่ง อาจทำให้โรคกำเริบและมีอาการดังกล่าว หรืออาการอาจเกิดจากการติดเชื้อที่บริเวณสมอง ซึ่งถ้ากินยากดภูมิอยู่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้

    แนะนำให้รีบพาน้องสาวไปพบแพทยืเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดโดยเร็วค่ะ ในระหว่างนี้ให้กินยาตามที่แพทย์สั่ง