ถามแพทย์

  • ลูกสาวอายุ 1 ปีครึ่ง มีอาการท้องเสียหลายครั้ง ถ่ายมีมูกเลือดปน หลังจากไปหาหมอยังถ่ายเหลวอยู่แต่ไม่มีเลือดปน จะต้องไปหาหมออีกครั้งไหม

  • ลูกสาวอายุ 1 ปี ครึ่ง มีอาการท้องเสีย ตั้งเเต่คืนวันจันทร์ที่ 4-5 /11/62 ประมาณ 10 กว่ารอบได้ค่ะ ถ่ายเหลวมีมูกเหลือปนเลือด ไปหาหมอมา ได้ยาแก้ท้องเสีย เกลือแร่ กับยาฆ่าเชื้อค่ะ คุณหมอบอกว่าประมาณ 2-3 วันอารการถึงจะดีขึ้น ผ่านมา หลังจากกินยา ก็ยังถ่ายอยู่วันละ 4 ครั้ง ถ่ายเแหลวเหมือนเดิม แต่ไม่มีมูกเลือดค่ะ  น้องไม่ซึมเล่นได้กินได้ปกติค่ะ แต่น้องไม่ยอมกินเกลือแร่เลยค่ะ คณแม่ไม่สบายใจ มันจะเป็นอัตรายไหมคะ ต้องพาน้องไปพบหมออีกไหมคะ

    วิภารัตน์ อัควะรัง  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ วิภารัตน์ อัควะรัง

    อาการถ่ายเหลวในเด็ก อาจเกิดจาก

    -ลำไส้อักเสบในเด็ก จากการติดเชื้อ เชื้อไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ได้แก่ โรตาไวรัส อะดีโนไวรัส โนโรไวรัส เป็นต้น อาจมีอาการถ่ายเหลว ถ่ายบ่อยครั้งขึ้น 

    -อาหารเป็นพิษ อาการคล้ายลำไส้อักเสบ แต่อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน กินได้น้อย มีไข้ร่วมด้วย

    -อาการของการแพ้นมวัว หากเพิ่งจะเปลี่ยนสูตรนมเร็วๆนี้ และเมื่อก่อนไม่เคยมีอาการ 

    โดยโรคลำไส้อักเสบนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อที่มาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรค หรือจากมือหรือภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กค่ะ ใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ในการฟื้นตัว

    หากมีการถ่ายอุจจาระบ่อย ปริมาณอุจจาระมาก และไม่สามารถดื่มน้ำชดเชยได้เพียงพอ ซึ่งสังเกตได้จากการมีริมฝีปากแห้ง ผิวแห้ง เบ้าตาลึก หัวใจเต้นเร็ว ซึมลง มีไข้ขึ้น เป็นต้น หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง ถ่ายมีมูกเลือดปน ควรรีบพาไปพบแพทย์ เพื่อให้สารน้ำทางหลอดเลือดหรือยาฆ่าเชื้อถ้าจำเป็น

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ควรให้ลูกรับประทานอาหารอ่อนๆและสุกสะอาด ดื่มน้ำมากๆ หากท้องอืดมากให้รับประทานทีละน้อยๆ รับประทานยาลดไข้หากมีไข้สูงและเช็ดตัวลดไข้ทุก 4-6 ชั่วโมง ดื่มน้ำสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่เสริมด้วย เพื่อทดแทนเกลือแร่ที่เสียไป