ถามแพทย์

  • ปวดท้องน้อยด้านซ้าย ปัสสาวะบ่อย อาการเกิดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ จะท้องไหม

  •  Jao Fai
    สมาชิก
    มีอาการปวดท้องน้อยด้านซ้าย (ตอนนี้รู้สึกเริ่มปวดท้องน้อยด้านขวานิดหน่อย) ฉี่บ่อยมากกว่าผิดปกติ แต่ฉี่ปริมาณปกติไม่มากหรือน้อยเกิน ขณะฉี่ไม่มีอาการปวดหรือแสบใดๆร่วมด้วย เป็นหลังจากมีเพศสัมพัน1วันค่ะ (มีวันที่18-19 3ครั้งค่ะ) ใส่ถุงยางทุกครั้งและไม่แตกค่ะ นับวันปลอดภัยด้วยค่ะ แต่ครั้งแรกเหมือนแฟนจะใส่ถุงยางผิดวิธี ทำให้รูดไม่ลงถึงโคน แต่ไม่ได้ใส่เข้าไปทั้งหมดนะคะ แฟนใส่ไปแค่ส่วนที่ครอบถึงพอดี และแฟนชักออกตอนเสร็จกิจ มีน้ำทะลักออกมาข้างๆ แต่หลั่งออกมาหลังจากชักออกแล้ว ตอนนี้มีอาการปวดท้องน้อยมากๆ ฉี่บ่อยรุ้สึกเหมือนปวดฉี่ตลอดเวลา กลัวว่ามีอสุจิเล็ดรอดเข้าไปอะค่ะ อยากทราบว่าแบบนี้คืออาการคนท้องหรือเปล่า

    สวัสดีค่ะ คุณ Jao Fai,

                         การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยนั้น จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%-18% อย่างไรก็ตาม การที่จะทราบว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่นั้น อาการที่สำคัญคือการขาดประจำเดือน  ดังนั้น ควรรอให้ถึงกำหนดวันที่ประจำเดือนจะมาเสียก่อน หากไม่มา จึงค่อยตรวจหาการตั้งครรภ์ดู 

                        สำหรับอาการต่างๆ ของการตั้งครรภ์ เช่น อาการแพ้ท้อง ปวดท้องน้อย รวมถึงอาการปัสสาวะบ่อยนั้น จะปรากฏหลังจากอาการขาดประจำเดือนไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ ดังนั้น หากอาการปรากฏเพียงไม่กี่วันหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ อาการดังกล่าวจึงไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์แต่อย่างใด

                       ดังนั้น อาการปวดท้องน้อยและปัสสาวะบ่อยที่เป็นอยู่ จึงน่าจะเกิดจาก การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งนอกจากอาการข้างต้นแล้ว อาจมีอาการปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะมีเลือดปนร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุของเชื้อ ได้แก่

                      - เชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ มักเกิดตามหลังการกลั้นปัสสาวะหรือดื่มน้ำน้อย รวมถึงหลังการมีเพศสัมพันธ์ พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังพบได้บ่อยในผู้ที่มีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ มีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ หรือมีก้อนเนื้องอกที่มดลูกโตจนมาเบียดกระเพาะปัสสาวะ 

                    - เชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม ซึ่งนอกจากอาการปัสสาวะที่ผิดปกติแล้ว จะมีตกขาวที่ผิดปกติ และอาจมีไข้ อ่อนเพลียร่วมด้วย รวมถึงอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

                     ในเบื้องต้นแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกมา หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ไม่กลั้นปัสสาวะ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ