ถามแพทย์

  • ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต 1.6 cm กินยายุบลงเหลือ 0.6 cm แต่ยังไม่ยุบหายไป และมีอีกหลายก้อน เกิดจากอะไร

  •  Papika Sthavornchai
    สมาชิก
    มีอาการต่อมน้ำเหลืองโตหลายก้อนที่คอค่ะ กินยา 2 เดือน ก้อนเล็กจาก 1.6 เซน เหลือ 0.6 ส่วนก้อนอื่นๆก็ . 0.3 ค่ะ คุณหมอบอกหายดีแล้ว ไม่ต้องมาหา คนทั่วไปก้อนก็ใหญ่ไม่เกิน 1 เซนได้ค่ะ คุณหมอบอกมาแบบนี้ ตอนนี้ผ่านมาเดือนกว่าแล้วค่ะ ยังจับเจอก้อนเล็กๆอยู่หลายก้อน แต่อาการอื่นๆไม่มีค่ะ มีแต่เป็นภูมิแพ้ น้ำมูกไหล ไอนิดหน่อยค่ะ ช่วงที่ไปโรงพยาบาลคุณหมอทำการซาวคอและเอกเรย์ปอด ซาวหน้าอกค่ะ ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ มีแต่ต่อมโตที่คอเท่านั้นค่ะ แบบนี้ปกติจริงๆมั๊ยคะ เรายังกังวลค่ะ ไม่อยากจับแล้วเจอก้อนต่อมน้ำเหลืองค่ะ กินยายังไงมันก็ไม่ยุบจนหมดค่ะ เราควรทำอย่างไรต่อดีคะ ขอบคุณคุณหมอล่วงหน้าค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Papika Sthavornchai,

                      การมีต่อมน้ำเหลืองที่คอโต อาจเกิดจาก

                       1. มีการติดเชื้อของเนื้อเยื่อแล้วทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ข้างเคียงอักเสบไปด้วย ซึ่งได้แก่

                          - การอักเสบของช่องปากและช่องคอจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ คอหอยอักเสบ เหงือกอักเสบ ฟันผุ เป็นต้น

                          - โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส เช่น โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

                       2. มีการติดเชื้อของต่อมน้ำเหลืองเอง ซึ่งจะทำให้ต่อมน้ำเหลือง บวมแดง เจ็บ เป็นหนอง มักมีอาการหลายๆต่อม  เช่น

                           - วัณโรคต่อมน้ำเหลือง  มักมีไข้และเหงื่อออกมากลางคืน อาจมีเบื่ออาหาร น้ำหนักลด

                           - โรคแมวข่วน (cat scratch disease)  เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อยู่ในต่อมน้ำลายแมว เนื่องจากแมวมักมีการเลียทั่วตัวรวมถึงเล็บ เล็บแมวจึงมีเชื้อแบคทีเรียนี้อยู่ หากโดนแมวข่วนตามแขน คอ หรือบ่อยๆ อาจเกิดการติดเชื้อได้ ทำให้มีไข้และต่อมน้ำเหลืองที่คอโต บางรายอาจมีคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีผื่น เยื่อบุตาอักเสบโรค เป็นต้น

                           -  ติดเชื้อปรสิต toxoplasmosis ซึ่งพบอยู่ในอุจจาระแมว ส่วนใหญ่ประมาณ 80-90% ของผู้ที่ติดเชื้อจะไม่มีอาการ ส่วนน้อยจะมีอาการต่อมน้ำเหลืองที่คอโต อาจพบที่รักแร้ หลังศีรษะ ไหปลาร้าได้ มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ

                           -  ติดเชื้อไวรัสอีบีวี (infectious mononucleosis) แต่อาการคือจะมีไข้สูง เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต มีจุดเลือดออกที่เพดานปาก อ่อนเพลีย ปวดหัว อาจคลำได้ตับและม้ามโต และอาจมีถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาการต่างๆ เหล่านี้มักจะหายไปได้เองใน 2 สัปดาห์ มีส่วนน้อยที่อาจกลายเป็นการติดเชื้อเริ้อรัง

                           - ติดเชื้อ HIV 

                          เป็นต้น                        

                         3. ต่อมน้ำเหลืองโตจากที่สาเหตุไม่ใช่การติดเชื้อ เช่น โรคภูมิแพ้ตนเองชนิดต่างๆ โรคมะเร็ง ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด หรือจากการแพ้ยาบางชนิด เช่น ยากันชัก phenytoin ยา atenolol, ยา allopurinol เป็นต้น

                          ดังนั้น หากการมีต่อมน้ำเหลืองโตเป็นมากเดือนกว่าๆ แล้ว โดยที่ไม่มีอาการอื่น ๆ ร่วมที่สำคัญ เช่น ไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตับม้ามโต เป็นต้น รวมถึงต่อมน้ำเหลืองไม่ได้มีขนาดใหญ่ขึ้น และไม่พบต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณอื่นๆ อีก รวมถึงได้ทำการตรวจพิเศษด้วยอัลตราซาวด์คอและเอกซเรย์ปอดแล้ว ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร การที่ยังคลำได้ต่อมน้ำเหลืองก็น่าจะเกิดจากการเป็นภูมิแพ้ได้ ซึ่งหากขนาดไม่ได้โตเกิน 1 เซนติเมตร และไม่ได้โตขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่น่ากังวลแต่อย่างใด และไม่จำเป็นต้องรักษาอะไรเพิ่มเติมค่ะ เพียงแต่ให้สังเกตอาการต่อไปเรื่อยๆ ก็พอค่ะ

     

    Papika Sthavornchai  Papika Sthavornchai
    สมาชิก
    ขอบคุณค่ะ คุณหมอที่เคยรักษาด้วยก็บอกให้สังเกตไปเรื่อยๆเหมือนกันค่ะ