ถามแพทย์

  • ตกขาวมีเลือดปนหลังหมดประจำเดือนไป 5-7 วันแล้ว เกิดจากอะไร

  •  CHAYA
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ อายุ 23 ปี สอบถามคุณหมอ พอดีมีอาการตกขาวเป็นเลือดสด ( ตกขาวสีใส ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน )  แต่เป็นเลือดสดแบบเส้นๆ ( บางครั้งเป็นหยดเลือดไม่เยอะเลอะที่กกน.) หลังจากหมดประจำเดือนไปประมาณ 5-7 วันแล้ว

    เริ่มเป็นเดือนสิงหาคม ประจำเดือนมาวันที่5 สค ปกติจะมาประมาณ 5วัน และหมดไปหลังจากนั้น มีตกขาวปนเลือดวันที่18สค (แค่วันเดียว)

    ต่อมาเดือนกันยายน ประจำเดือนมาวันที่ 3 กย และมีตกขาวปนเลือดวันที่15-17 กย และหมดไป

    ล่าสุดเดือนตุลาคม ประจำเดือนมาวันที่ 1 กย มีตกขาวสีใสปนเลือดสด สลับสีเหลืองอ่อนๆ กับน้ำใสๆ เมื่อวันที่ 11 -12 ตค 

    *ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์

    อาการดังกล่าวเป็นอาการของประจำเดือนตกค้างได้ไหมค่ะ หรือเกิดจากความผิดปกติตรงไหนได้บ้าง? ....ขอบคุณมากค่ะ....

    CHAYA  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ CHAYA

    การมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือนดังกล่าวมานั้น อาจจะมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อหรือมีเนื้องอกที่ปากมดลูกหรือมดลูก การมีเนื้องอกที่มดลูกหรือปากมดลูก ฮอร์โมนจากรังไข่ไม่สมดุล อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานอักเสบ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิด ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เลือดตามหลังการปฏิสนธิ 

    แต่หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย ก็คงนึกถึงสาเหตุเรื่องเนื้องอก หรือกลุ่มฮอร์โมนจากรังไข่ไม่สมดุลได้มากที่สุด

    แนะนำการจดรายละเอียดของเลือดที่ออก นำไปปรึกษาสูตินรีแพทย์ อาจต้องมีการตรวจร่างกายหรืออัลตราซาวน์หน้าท้องร่วมด้วยเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป โดยปกติประจำเดือนควรมา 3-7 วัน หยุดสนิท ไม่มีออกกระปริดกระปรอยมาอีก ไม่มีการค้างมาออกระหว่างรอบเดือนค่ะ เบื้องต้นงดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้างช่องคลอด ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนมาใช้เอง