ถามแพทย์

  • ตกขาวเป็นสีเหลืองเป็นมา 2 ปี ไม่มีอาการคัน เป็นเชื้อราหรือเปล่า

  •  nichapaMK
    สมาชิก
    คือดิฉันมีอาการตกขาวเป็นสีเหลืองมาปาะมาณสองปีแล้ว อาการคือเมื่อตกขสงเมือกที่ออกมาจะมีสีเหลืองปนอยู่ด้วย แต่ไม่พบอาคารคันหรือปวดแสบปวดร้อน ไม่แน่ใจว่าเป็นเชื้อราหรืออะไร และเรื่องที่สองประจำเดือนของดิฉันไม่มาสองเดือนแล้ว(ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์) ไม่ทราบว่าเกี่ยวกันไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ nichapaMK

    โดยทั่วไป ในช่องคลอดฝ่ายหญิงสามารถมีตกขาวอยู่ได้อยู่เเล้วตามปกติค่ะ แต่การที่จะบอกว่า เป็นตกขาวที่ผิดปกตินั้น (Leukorrhea) ตกขาว คือมีการเปลี่ยนเเปลงไป เช่น มีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น มีกลิ่นเหม็น มีสีที่ผิดปกติไป เช่น สีเหลือง สีเขียว เป็นฟอง หรือเเสบคันช่องคลอด 

    โดยทั่วไป สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อในช่องคลอด

    -การติดเชื้อรา (Vulvovaginal candidiasis) มีลักษณะตกขาวเป็นก้อน คล้ายนมบูด สีเหลือง มีอาการเเสบคันช่องคลอด หรืออวัยวะเพศภายนอกร่วมด้วย บางครั้งอาจเกิดตามหลังจากการใช้ยาฆ่าเชื้อในการรักษาโรคอื่นๆ เช่น หวัด 

    -แบคทีเรีย (Bacterial vaginosis) มีตกขาวปริมาณเพิ่มมากขึ้น มีกลิ่นเหม็น แสบคันช่องคลอดไม่มาก บางครั้งมีกลิ่นเเรงมากขึ้น ภายหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์แต่เป็น สมดุลกรดด่างของช่องคลอดที่เสียไปค่ะ

     -ปรสิต (Trichomonas vaginalis) ตกขาวมีปริมาณเยอะขึ้น มีสีเหลือง แสบคันช่องคลอดมาก คู่นอนอาจมีสารคัดหลั่งลักษณะคล้ายกันออกจากอวัยวะเพศ สัมพันธ์กับการมีเพสสัมพันธ์ ถ้าไม่มีอาจคิดถึงน้อยลงค่ะ

    นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการที่ฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น การเปลี่ยนเเปลงของฮอร์โมนก่อนมีประจำเดือน หรือ เป็นช่วงไข่ตก ดังนั้น การไม่มีประจำเดือนอาจเป็นไปได้ว่าไม่มีไข่ตก รอบเดือนคลาดเคลื่อน และฮอร์โมนอาจมีการเปลี่ยนเเปลง

    ดังนั้น เเนะนำให้มาพบสูตินรีเเพทย์ อาจไม่ต้องตรวจภายในถ้ายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือถ้าต้องการตรวจก็สามารถทำได้ค่ะ แต่ถาไม่ต้องการ อาจดูลักษณะอวัยวะเพศภายนอกเพื่อดูร่องรอยการติดเชื้อ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง ร่วมกับหาสาเหตุของการที่รอบเดือนไม่มาด้วยค่ะ ว่าทำไมถึงมีการไม่ตกไข่เกิดขึ้นค่ะ