ถามแพทย์

  • หงุดหงิดง่าย เคยคิดฆ่าตัวตาย หลังทานยา วันต่อมาจะเปลี่ยนเป็นคนละคน เป็นแบบนี้บ่อยๆ เป็นอาการของโรคอะไร

  •  อร' ลี่
    สมาชิก
    ท้าวความก่อนนะคะ เมื่อปีก่อนเคยปรึกษาคุณหมอที่ โรงพยาบาลแล้ว กะบอาการของตัวเอง หงุดหงิดง่าย รู้สึกว่าดอารมณ์ดิ่งบ่อยๆ คิดฆ่าตัวตาย โมโหร้าย และทำร้ายตัวเอง ซึ่งเล่าอาการต่างๆและความคิดที่เรามี ให้คุณหมอฟัง คุณหมอเลยให้ยา fluoxetine มาทาน แต่ว่าตอนเราทานไป มันรู้สึกเบลอเลยหยุดเอง และกลับผ่านไปหลายเดือนกลับไปหาคุณหมออีกครั้ง หมอได้ให้ยาตัวเดิมมาทาน แต่ครั้งนี้มานแล้วประสานสองอาทิตย์ที่มานรู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองฉุนเฉียว โมโหง่ายมากๆ คุยกับคนที่ทำงานไม่เข้าหูเราสักคน เลยหยุดอีกครั้งเช้าวันรุ่งขึ้นร฿้สึกดีเปลี่ยนเป็นคนละคนจากเมื่อวาน เเละไม่ได้ทานยามาตลอด จนตอนนี้เยลาโมโหจะควบคุมตัวเองแทบไม่ได้เลย สมองจะเบลอ และจะรู้สึกผ่อนคลายเบาลงเมื่อได้ทำร้ายตัวเองให้เจ็บ มั้งกรีดแขน หัวโขกกำแพง รู้สึกว่าอรมณ์ตัวเองมันสลับๆปรับเปลี่ยนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าน จนกลัวตัวเอง อาทิตย์นี้ง่วงหลับไว อีกอาทิตย์ถัดมาหลับยากตีสามตีสี่ เป็นแบบนี้มาพักใหญ่ๆแล้ว แต่ไม่กล้าที่จะไปหาหมอ แบบนี้เข้าข่ายจะเป็นไบโพล่าหรือเปล่าคะ
    อร' ลี่  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ อร' ลี่

    โรคไบโพลาห์จัดว่าเป็นโรคความผิดปกติทางอารมณ์ชนิดหนึ่งที่ทำให้มีอารมณ์ 2 ขั้วกล่าวคือเวลาเศร้าก็จะเศร้ามากคล้ายกับเป็นคนซึมเศร้าคือเก็บตัว ไม่เข้าสังคม มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย และก็จะมีช่วงที่อารมณ์มีความสุขมากเกินไป ทำให้คึกคัก มีความคิดจะทำกิจกรรมหลายอย่าง ออกไปเที่ยวหรือจับจ่ายใช้สอยจนเกินควร และอาจทำให้มีอารมณ์ทางเพศสูงผิดปกติได้

    จากอาการดังกล่าวมานั้น ไม่ได้มีช่วงที่มีอารมณ์มีความสุขเลย การมีความสุขหลังทำร้ายตัวเอง ไม่ใช่อาการของไบโพลาห์ คิดว่ากรณีนี้อาจจะยังนึกถึงการวินิจฉัยอื่นๆได้อีกเช่นโรคซึมเศร้า ความผิดปกติในการควบคุมอารมณ์ หรือมีพฤติกรรมที่ชอบความรุนแรง

    แนะนำพบจิตแพทย์เพื่อประเมินสภาพจิตซ้ำอีกครั้ง หากรับประทานยาที่แพทย์จ่ายมาแล้วไม่ดีขึ้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสมค่ะ