ถามแพทย์

  • กินยา lamivudine เพื่อรักษาตับอักเสบไวรัสบีอยู่ แล้วมีอาการขับถ่ายยาก มีท้องผูกเรื้อรัง เกิดจากอะไร เกี่ยวกับยาไหม

  •  Sarkhan Man
    สมาชิก
    ช่วงเวลาทานยา lamivudine (ตับอักเสบไวรัสบี) ผมรับการรักษาไวรัสตับอักเสบจากโรงพยาบาลรัฐครับเกือบสิบปีแล้วหมอจ่าย lamivudine กินวันละหนึ่งเม็ดตลอด หมอบอกทานเวลาไหนก็ได้แต่ต้องตรงเวลา แต่ผมทานข้าวไม่เป็นเวลา ตอนนี้ผมเลยกินหนึ่งเม็ดตอนเช้าหลังตื่นนอน อาการตับปรกติดี แต่ช่วงหลังๆกลับขับถ่ายยากไม่เป็นเวลา สองสามวันครั้ง และเหมือนท้องผูกเรื้อรัง แล้วทราบมาว่าการทานยาปฎิชีวนะเป็นเวลานานอาจจะทำให้ระบบดูดซึมแย่ลง ผมเลยย้ายเวลาทานยาเป็นตอนกลางคืนก่อนนอนทานได้สี่ห้าวัน เหมือนร้สึกว่าอาการของตับอักเสบแย่ลงชัดเจน เลยกลับมาทานตอนเช้าหลังตื่นอาการก็กลับมาปรกติ แต่กลับท้องผูกเรื้อรังแทน คำถามคือท้องผูกไม่รู้เป็นที่ยาหรือเปล่า ทั้งๆที่กินอาหารหลากหลาย ผัก ผลไม้ โปรตีน ครบ ดื่มน้ำวันละสองลิตรตลอดครับ
    Sarkhan Man  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Sarkhan Man

    อาการขับถ่ายยาก มีท้องผูกเรื้อรังนั้น อาจจะเกิดจาก การรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อยหรือดื่มน้ำน้อยซึ่งเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุด สาเหตุอื่นๆเช่นโรคลำไส้อุดตัน การได้รับยาบางชนิดเช่น ยารักษาอาการชัก ธาตุเหล็ก หรือมีภาวะไทรอยด์ต่ำ เป็นต้น

    การรับประทานยาต้านไวรัสตับอักเสบบีนั้นไม่น่าจะส่งผลต่อกระบวนการทำงานของลำไส้ ส่วนใหญ่ที่จะส่งผลได้บ้างเช่นเป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะที่เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่กลุ่มยาฆ่าเชื้อไวรัส

    เบื้องต้น รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำมากๆ ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลาและไม่นั่งถ่ายนานจนเกินไป เน้นรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืช หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ สังเกตอาการถ้ายังท้องผูกต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ไม่ดีขึ้นแม้ปรับพฤติกรรมแล้ว ควรปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป