ถามแพทย์

  • ทดสอบที่ผิวหนังก่อนฉีดอิมมูโกบูลินป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้วแพ้ ทำไมจึงยังฉีด

  •  Kanyaphat Tiyabut
    สมาชิก
    วันนี้หนูโดนแมวข่วน จึงไปโรงพยาบาลเพื่อจะฉีดยาพิษสุนัขบ้า หลังจากฉีดพิษสุนัขบ้าและบาดทะยักแล้ว พยาบาลเลยให้เทส ยากับน้ำเกลือ ปรากฎว่าข้างที่ฉีดอิมมูโกบูลิน เกิดอาการบวมแดงและก็แพ้ พยาบาล ก็มาดูปรึกษากัน แล้วบอกใหฉีดไปเลยไม่เป็นไร หลังจากฉีดเข้าที่แผล ประมาณ 5 นาที ก็เกิดอาการบวมแดง ออกเเสบออกร้อน และฉีดเข้าที่สะโพก สะโพกก็บวม พยาบาลเลยบอกให้นอนดูอาการ และฉีดยาแก้แพ้ให้ และให้กลับบ้าน หนูจะเป็นอะไรไหมค่ะ หนูถามเขาก่อนฉีดว่าต้องฉีด ทั้งที่แพ้หรอ เขาบอกฉีดไปเลย หมอบอกแพ้ก็ฉีด แบบนี้ก็มีหรอค่ะ
    Kanyaphat Tiyabut  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Kanyaphat Tiyabut

    การฉีดอิมมูโนโกบูลินเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันแบบทันทีหลังได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้า โดยควรฉีดภายใน 7 วันหลังมีการสัมผัสสัตว์

    อิมมูโนโกลบูลินปัจจุบันมี 2 แบบคือแบบที่มาจากม้า และแบบที่มาจากคน โดยแบบที่มีโอกาสแพ้ได้สูงคือแบบที่มาจากม้า แต่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากกว่าด้วยราคาที่ถูกและเข้าถึงได้ง่าย

    โดยการทำทดสอบที่ผิวหนังก่อนฉีดนั้นก็เพื่อจะดูว่าผู้ป่วยมีโอกาสจะแพ้อิมมูโนโกลบูลินแบบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตหรือเปล่า ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้สัมพันธ์กันเสมอไป หมายความว่าผู้ป่วยบางคนแพ้ที่ผิวหนังรุนแรง แต่ฉีดไปจริงๆก็ไม่ได้มีการแพ้รุนแรงเช่นความดันต่ำ หอบเหนื่อย หายใจไม่ออก หรือบางคนที่พอทดสอบที่ผิวหนังแล้วไม่เป็นอะไร ฉีดไปจริงกลับแพ้จนความดันตกช็อกไปก็ได้ ดังนั้นหากมีอาการแพ้ที่ผิวหนังแต่มีความจำเป็นต้องฉีดจริงๆ แพทย์จะให้ฉีดที่รพ.และสังเกตอาการหลังฉีด หากผ่านไป 15-20 นาที ไม่มีอาการแพ้รุนแรงดังที่กล่าวไป ก็น่าจะไม่เป็นไรค่ะ