ถามแพทย์

  • มีอาการคันบริเวณอวัยวะเพศหญิง มีตกขาว ไม่มีกลิ่น ควรรักษาอย่างไร

  •  Phatpleam
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันมีอาการคันบริเวณอวัยวะเพศค่ะ เป็นมาได้ 3-4 วันแล้ว ช่วง 1-3 วันแรก มีอาการตกขาวเยอะมากๆ ไม่มีกลิ่นค่ะ และคันตั้งแต่วันแรก วันนี้เข้าวันที่ 4 ก็ยังคันอยู่ คันมากกว่าเดิมค่ะ แต่อาการตกขาวน้อยลง แต่ช่วงนี้จะคันบริเวณ ปากช่องคลอด ถึงด้านในช่องคลอดเลยค่ะ เครียดมากๆ กลัวมีอันตราย และควรรักษายังไงดีคะ (มีเพศสัมพันธ์เดือนละ 5-6 ครั้งค่ะ)

    สวัสดีค่ะ

    อาการคัน และตกขาวบริเวณช่องคลอด แสดงถึง อาการอักเสบของช่องคลอด ซึ่งสามารถเกิดจากสาเหตุได้ดังนี้

    • ติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส หรือเชื้อปรสิต มักมีตกขาวกลิ่นเหม็น มีสีเปลี่ยนไป เช่น สีเขียว สีเหลือง หรือมีฟอง หรือมีสีขาวข้นคล้ายแป้งเปียกจำนวนมาก
    • ผื่นอักเสบ จากการระคายเคืองเนื่องจากสารเคมี เช่น สบู่ ผ้าอนามัย 
    • ผื่นจากการแพ้สัมผัส เช่น สีย้อมผ้า ถุงยางอนามัย น้ำหอม น้ำยาซักผ้า
    • การกินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้สมดุลของเชื้อราบริเวณช่องคลอดเปลี่ยนไป
    • โรคผิวหนังบางชนิดบริเวณช่องคลอด เช่น  Lichen sclerosus et atrophicus, Lichen planus มักมีผื่นรอบนอกด้วย

    เบื้องต้นให้สังเกตอาการ และประวัติเบื้องต้น รักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอด ไม่ชะล้างภายในช่องคลอด ใช้สบู่สูตรอ่อนโยนสำหรับจุดซ่อนเร้น ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจค่ะ