ถามแพทย์

  • คันข้างขาหนีบ ตอนแรกเป็นผื่นเม็ดใส ๆ พอเกาไปนาน ๆ ผิวหนังกลายเป็นสีดำ แข็ง ๆ ด้าน ๆ มีขุย เป็นเพราะอะไร

  •  Namna
    สมาชิก
    คันข้างขาหนีบค่ะ ตอนแรกเป็นผื่นเม็ดใส ๆ สีแดง ๆ แล้วพอเกาไปนาน ๆ ผิวหนังกลายเป็นสีดำแล้วค่ะ แล้วก็มีขุยขาว ๆ ลอกด้วยค่ะ ผิวหนังก็เริ่มแข็ง ๆ ด้าน ๆ ด้วยค่ะ เป็นเพราะอะไรค่ะ คุณหมอ

    สวัสดีค่ะ คุณ Namna,

                       อาการคัน มีผื่น และขุยขาวๆ ที่ขาหนีบ อาจเกิดจาก

                     1.ผิวหนังอักเสบจากการระคายเคืองของสารเคมี เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นต้น เริ่มแรกจะเห็นเป็นผื่นแดง ผิวอาจบวมเล็กน้อย ต่อมามีตุ่มน้ำเล็กๆ มีน้ำเหลืองเยิ้ม ต่อมาผื่นจะลดลง ในระยะต่อมา ผื่นจะแห้งขึ้นตกสะเก็ด มีอาการคัน หากเป็นเรื้อรัง รวมกับมีการเกาบ่อยๆ ผืวหนังจะหนาขึ้น แห้ง แข็ง และมีสีคล้ำขึ้น

                    2. การติดเชื้อรา Candida  มักพบตามซอกผิวหนังที่อับชื้น เช่น ซอกรักแร้ ขาหนีบ ใต้ราวนม สะดือ ง่ามนิ้ว รวมถึงเล็บ และในช่องคลอดด้วย ผิวหนังจะมีลักษณะรอยแดงแบบหนังถลอกและรอบๆ รอยแดง จะมีผื่นนูนแดงเล็กๆ กระจายอยู่ มีอาการคัน

                    3. โรคกลาก เป็นติดเชื้อรากลุ่มเดอร์มาโตไฟต์ (dermatophyte) ที่ผิวหนัง อาการเริ่มแรกมักจะเห็นเป็นตุ่มแดงๆ แล้วค่อยๆ ลามออกไปจนมีลักษณะเป็นวงที่มีขอบเขตชัดเจน มักมีตุ่มน้ำใสเล็กๆ หรือขุยขาวๆ อยู่รอบวง ร่วมกับมีอาการคัน 

                    4. ผิวหนังอักเสบจากโรคอื่นๆ เช่น โรคเซบเดิม (seborrheic dermattitis) แต่มักพบตามใบหน้า หลัง หน้าอก หรือหนังศรีษะ 

                     แนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้แพ้และระคายเคืองต่างๆ และควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูลักษณะของผิวหนังบริเวณขาหนีบ ว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุใดดังกล่าวไป และจะได้รักษาตามสาเหตุค่ะ