ถามแพทย์

  • มีปื้นแดงที่ขา ตรงกลางเป็นสีเทาดำ เจ็บและแสบ ไม่ค่อยคัน เป็นอะไร กินยาและทายาแก้แพ้ไม่ดีขึ้น

  •  Nongkong
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ เมื่อ2วันที่แล้ว ตรงขาแถวใต้ก้น เป็นปื้นแดงๆคล้ายลมพิษค่ะ พอผ่านไป1-2วัน รอบๆแดงๆแล้วตรงกลางเป็นสีเทาๆดำๆเหมือนมันผุผองค่ะ รู้สึกเจ็บและแสบเวลาไปโดนตรงนั้น แต่ไม่ได้มีการเกาอะไรเลยค่ะ ไม่ค่อยรู้สึกคันเท่าไหร่ อยากทราบว่าเป็นอะไรคะ ก่อนหน้าที่เป็นกินปลาหมึกย่างตามตลาดไปค่ะ แล้ว2เดือนที่แล้วเคยเป็นโควิดค่ะ อยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับระบบภูมิกันเราหรือเปล่าคะ ตอนนี้กินยาแก้แพ้แก้คันอยู่ค่ะ และได้ยามาทาด้วย ยาทาของ ทีเอครีม 0.1% ค่ะ กินมาวันสองวัน รู้สึกว่าที่เป็นปื้นแดงนั้น ไม่ได้มีอาการดีขึ้นค่ะ มีลามไปตรงขานิดหน่อยค่ะ ควรไปพบแพทย์หรือกินยาอีกสักวันสองวันดีคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Nongkong,

                         ปื้นแดงๆ ที่ขา ซึ่งมีลักษณะที่มีสีแดงรอบๆ และตรงกลางเป็นสีเทาดำ มีอาการเจ็บและแสบ ไม่น่าจะเป็นผื่นลมพิษ เนื่องจากผื่นลมพิษ มักเป็นหลายตำแหน่ง และจะมีอาการคันเป็นหลัก นอกจากนี้ ผื่นลมพิษ จะขึ้นแล้วหายใน 24 ชั่วโมง แล้วขึ้นมาใหม่ โดยอาจเป็นตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งใหม่ค่ะ ดังนั้น อาการที่เป็นอยู่ จึงน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่นมากกว่า เช่น 

                        - ผื่นจากการโดนด้วงก้นกระดกกัด จะพบเป็นผื่นแดง หรือผื่นเหมือนรอยไหม้ตรงกลาง มักเป็นแนวเส้นยาว และจะพบร่วมกับผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสขนาดเล็กๆ มีอาการปวดแสบร้อน ต่อมาผื่นจะตกสะเก็ดและหายได้เองได้ภายใน 7 - 10 วัน 

                      -  งูสวัด คือโรคติดเชื้อไวรัส มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคอีสุกอีใส หากเชื้อชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายผู้ที่ไม่เคยได้รับเชื้อก็จะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส และเมื่อหายเป็นปกติแล้ว เชื้อดังกล่าวจะเข้าไปอยู่บริเวณปมประสาทของร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนแอ เชื้อก็จะออกจากปมประสาทและทำให้เกิดโรคที่ผิวหนังตามเส้นประสาทของผมประสาทนั้นๆ  ซึ่งเรียกว่า งูสวัด  โดยลักษณะของโรคงูสวัด คือจะเป็นผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสอยู่กันเป็นกลุ่ม และมีอาการปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้ ร่วมด้วย หลังจากนั้น ตุ่มน้ำจะค่อย ๆ แห้งตกสะเก็ดไปใน 7-10 วัน 

                     ดังนั้น หากเคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน และผื่นที่เกิดขึ้นนั้น เกิดในช่วงก่อนและขณะที่มีประจำเดือนมา ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ ก็น่าจะเป็นงูสวัดได้ อย่างไรก็ตาม อาจแยกยากจากผื่นที่เกิดจากด้วงกระดกกัด ดังนั้น แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยค่ะ ในเบื้องต้น ควรงดทาครีม T.A. cream ที่ทาอยู่ เนื่องจากเป็นยาสเตียรอยด์ ซึ่งอาจทำให้อาการของโรคงูสวัดแย่ลงได้ และหากไม่ได้มีอาการคัน ก็ไม่ควรทานยาแ้กแพ้แก้คันไปค่ะ