ถามแพทย์

  • ขอสอบถามผลการตรวจซิฟิลิซ โดยตรวจด้วยวิธีRPR ผล non reactive และวิธี TPHA ผล reactive >=1:320 แบบนี้แปลว่าอะไร

  •  KP2532
    สมาชิก
    ไปตรวจHivกับซิฟิลิสมาที่คลินิกนิรนาม Hiv=non reactive, ซิฟิลิส ค่า RPR=non reactive , treponemal test=reactive โทรไปสอบ-ถามเจ้าหน้าที่มาเขาแนะนำให้ไปตรวจซิฟิลิสเพิ่มเติม ผมเลยไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผล RPR=non reactive , TPHA=reactive >=1:320 แต่แพทย์แจ้งว่ายังไม่ต้องทำอะไรอาจเป็นเชื้อที่มีมานานแล้วและหายไปแล้วแต่ผมไม่เคยรับการรักษาเลยครับ และนัดมาเจาะเลือดอีก 1 สัปดาห์เพื่อตรวจค่า VDRL(RPR) ผมอยากทราบว่าผลออกแบบนี้หมายถึงอะไรครับ ค่าของเชื้อเยอะหรือไหมแล้วถ้าไม่ทำการรักษามันจะหายหรือครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
    KP2532  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ KP2532

    ซิฟิลิสคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดเกลียว ทำให้มีอาการแผลที่อวัยวะเพศ ผื่นตามตัว ในระยะแรก หลังจากนั้นถ้าปล่อยไว้นานหลายปีไม่ได้รักษาจะลุกลามไปทำให้เกิดโรคในระบบประสาท สมอง หรือหัวใจและหลอดเลือดได้ เป็นโรคที่ในปัจจุบันถ้าเจอเร็ว รักษาเร็ว ไม่น่ากลัว 

    การวินิจฉัยใช้การตรวจเลือด คือตรวจระดับภูมิคุ้มกันของร่ายกายต่อซิฟิลิส โดยจะมีระดับค่าความมากน้อยและภูมิคุ้มกันในเลือดที่พบซึ่งจะเก็บไว้ติดตามการรักษา การตรวจเลือดมี 2 วิธีหลัก คือการตรวจคัดกรองหรือวิธีที่เรียกว่า RPR และตรวจยืนยันก็คือ TPHA หรือ treponemal test

    จากผลที่แนบมาจึงสรุปว่าการตรวจคัดกรองให้ผลลบ แต่ตรวจยืนยันให้ผลบวก ซึ่งหมายความว่าอาจจะเคยติดเชื้อมาในอดีต รักษาหายแล้ว แต่ค่าเลือดของการตรวจยืนยันยังคงตรวจเจออยู่ ซึ่งเป็นปกติในผู้ที่รักษาหายแล้ว ค่านี้อย่างไรก็จะไม่หายไป ดังนั้นในกรณีนี้แพทย์จึงคิดว่าเป็นการติดเชื้อเก่า และจะให้นัดกลับไปติดตามค่าเลือดอีกครั้ง ถ้าค่าเลือดคัดกรอง RPR อย่างไรก็ไม่ขึ้น แสดงว่าเป็นการติดเชื้อเก่าจริง และไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม แนะนำการสอบถามอย่างละเอียดกับแพทย์ที่ดูแลโดยตรงอีกครั้ง และมีเพศสัมพันธ์ต้องใส่ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งเพื่อไม่ไปรับเชื้อมาใหม่