ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุม มีเลือดออก ให้ยาปรับฮอร์โมน เเล้วเลือดออกไม่หยุด

  •  Sirawan Pukhongnin
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ จากคำถามเก่าที่เคยถามหมอว่าฉีดยาคุมแล้วประจำเดือนมากระปิบกระปรอย หนูได้ไปพบหมอเฉพาะทางแล้วหมอให้หนูกินยาปรับฮอร์โมน ยาESTROGEN TAB 0.625MG -PREMARIN หนูกินวันแรกประจำเดือนก็เริ่มออกเยอะ วันนี้เป็นวันที่2ยิ่งออกเยอะมากค่ะ เปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ2ชม.หนูอยากทราบว่ามันผิดปกติไหมคะ แล้วยานี้มีผลข้างเคียงอะไรรึป่าวคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Sirawan Pukhongnin 

    การที่คุมกำเนิด โดยยาฉีดคุมกำเนิด (Injection) ยาคุมแบบฉีด เป็นที่นิยมใช้ค่ะ ซึ่งในปัจจุบัน มี 2 แบบ คือ ทุก 1 เดือน หรือ ทุก 3 เดือนค่ะ 

    ถ้าเป็นแบบฉีดทุก 3 เดือน มักจะเป็นตัวฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียวค่ะ ที่จะทำหน้าที่ยับยั้งการตกไข่ เปลี่ยนแปลงมูกปากมดลูกให้ข้นเหนียว และที่สำคัญคือ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวลง ดังนั้น การที่เยื่อบุโพรงมดลูกบางจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดออกกระปริบกระปรอยได้ค่ะ

    ซึ่งในการใช้ยาฉีดช่วงแรกอาจมีประจำเดือนมาผิดปกติได้ มีเลือดออกกระปริบกระปรอย หรือ ออกในระยะเวลาที่ยาวนาน ส่วนมากอาการเหล่าน้ีมักเป็นในช่วง 9-12 เดือนแรกค่ะ พอผ่านไป 1 ปี มักจะมีอาการดีขึ้นค่ะ

    ส่วนอีกแบบคือ ทุก 1 เดือน จะเป็นฮอร์โมนรวม คือ เอสโตรเจน เเละโปรเจสเตอโรน ซึ่งจะลดเรื่องเลือดออกผิดปกติไปได้

    ดังนั้น คาดการณ์ว่าน่าจะฉีดแบบทุก 3 เดือน ดังนั้น เลือดที่ออก คือผลจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ที่พบได้ค่ะ ดังนั้นส่วนมากการรักษาคือการให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเข้าไป ดังที่ คุณ Sirawan Pukhongnin ได้รับค่ะ ซึ่งโดยทั่วไปอาจใช้ระยะเวลาเล็กน้อยในการปรับฮอร์โมนค่ะ เพื่อให้เลือดค่อยๆหยุดไหล

    เเต่ในรายที่เลือดยังคงออกมามากอยู่ เเนะนำให้กลับไปพบเเพทย์ซ้ำค่ะ เนื่องจากการเปลี่ยนผ่าอนามัยทุก 2 ชั่วโมงคาดว่าน่าจะมีการเสียเลือดที่ค่อนข้างมาก เพื่อปรับยาฮอร์โมนเพิ่ม ร่วมกับยาตัวอื่นในการห้ามเลือด หรือให้เลือดออกน้อยลงได้ค่ะ

    ส่วนผลข้างเคียงจากยา ที่พบว่ามีรายงานคือเพิ่มการอุดตันของหลอดเลือด ร่วมกับ อาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะได้ค่ะ