ถามแพทย์

  • มีเลือดออกผิดปกติ หมอให้ทานยาปรับฮอร์โมน แล้วมีอาการปวดขาทุกวัน

  •  พอ แพว
    สมาชิก
    พอดีมีเลือดไหม ผืดปกติที่ไม่ใช่ประจำเดือนหลังมีเพศสัมพันธ์ หมอให้ยาปรับฮอร์โมนมากิน แต่ทำไมมีอาการปวดขาทุกวันเลยคะ เกี่ยวกับยาปรับฮอร์โมนไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ พอ แพว,

                         เลือดที่ออกผิดปกติจากช่องคลอด อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ได้ เช่น

                        1. มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น แท้งคุกคาม ท้องนอกกมดลูก ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นต้น

                       2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                       3. มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                       4. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น 

                       5. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น

                       6. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                       หากได้ไปพบแพทย์และตรวจแล้ว แพทย์จ่ายยาปรับฮอร์โมนมาให้ทาน แสดงว่าน่าจะเกิดจากการทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ที่ผิดปกติค่ะ

                       สำหรับยาปรับฮอร์โมนนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นยา Norethisterone ซึ่งผลข้างเคียงที่อาจพบได้ ได้แก่ ปวดศีรษะ เจ็บเต้านม คลื่นไส้ ปวดท้อง บวมน้ำ เป็นสิว หรือมีฝ้าขึ้น เป็นต้น ส่วนอาการปวดขานั้น ไม่น่าเกิดจากผลของยา โดยอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การใช้งานกล้ามเนื้อขามากไป เช่น จากการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย เดินมาก ยกของหนัก เป็นต้น หรือเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณเอวเคลื่อน มีกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท เป็นต้น

                     ในเบื้องต้น หากอาการปวดเป็นไม่มาก แนะนำให้ดูแลตนเอิงไปก่อน ได้แก่ การงดการออกกำลังกายและเล่นกีฬาต่างๆ งดการยกของหนัก ไม่เดินมาก ไม่วิ่ง ไม่ใส่รองเท้าส้นสูง เป็นต้น และอาจทานยานวด และทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไดโคลฟีแนค เป็นต้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาค่ะ