ถามแพทย์

  • กินยาคุมมา 7 ปี หยุดกินมา 6 เดือน ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย เวียนหัว คลื่นไส้ เกิดจากอะไร

  •  Siriboon Sirivechtanawat
    สมาชิก

    กินยาคุมมา 7 ปี หยุดกินเนื่องจากเลิกกับแฟนและไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หลังจากเลิกกินไปประจำเดือนมากระปิดกระปอย ร่วมกับอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ แต่ไม่ได้ท้องนะค่ะ ไม่ทราบว่ามันเกี่ยวกับการที่เรากินยาคุมมานานไหมค่ะ หรือเกิดจากอะไรค่ะ เพราะเคยไปหาหมอมาแล้วหมอก็บอกว่าเป็นปกติค่ะ เลยสงสัยเพราะเป็นแบบนี้หลังหยุดกินยาและเป็นแค่บางเดือนค่ะ แต่เลิกกินยาคุมมาได้ 6 เดือนแล้วค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Siriboon Sirivechtanawat,

                            หากหยุดทานยาคุมกำเนิดมาได้ 6 เดือนแล้ว ยาคุมก็จะไม่ได้มีผลต่อการทำงานของรังไข่อีกต่อไป แม้จะทานมานานต่อเนื่อง 7 ปีก็ตาม 

                            ดังนั้น หากมีประจำเดือนมาผิดปกติ คือมีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนที่น้อยกว่า 21 วัน หรือนานกว่า 45 วัน หรือมีเลือดประจำเดือนนานกว่า 7 วัน หรือในระหว่างรอบประจำเดือน ได้มีเลือดออกมากะปริดกะปรอย ก็จะถือเป็นอาการเลือดออกผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                             - มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                             - มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                              - มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ 

                              - การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                              - ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนอื่นๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น

                             ดังนั้น หากยังคงมีลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ โดยไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ และไม่ได้เกิดจากการใช้ยาฮอร์โมนอื่นๆ รวมถึงมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ก็ควรกลับไปปรึกษาสูติ-นรีแพทย์อีกครั้งเพื่อตรวจหาและรักษาค่ะ ทั้งน้ อาการเวียนหัวและคลื่นไส้ อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับประจำเดือนที่ผิดปกติก็ได้ เช่น อาจเกิดจากมีความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีโรคต่างๆ ของหู เป็นต้น