ถามแพทย์

  • โดนแมวกัดวันที่ 17 ส.ค. ได้ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและบาดทะยัก แต่ไม่ได้ฉีดเซรุ่ม 2 วันนี้มีเจ็บคอ มีไข้ จะเป็นพิษสุนัขบ้าไหม

  •  hakuk
    สมาชิก
    โดนแมวจรกัดเมื่อวันที่ 17 สค ตอน2 ทุ่มค่ะ ล้างแผลด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ แผลมี4แผล มีแผลเล็กแต่ลึกเลือดออก 2 แผล แต่พอไปถึงโรงพยาบาล ตอน 20.45 เลือดหยุดไหล หมอไม่ได้ฉีดเซรุ่มให้ ฉีดแต่วัคซีนพิษสุนัขบ้ากับวัคซีนบาดทะยัก จะเป็นไรมั้ยคะ 2 วันก่อนหรือรู้สึกนอนไม่หลับ แล้วก็เจ็บคอ คอแห้ง มีไข้ต่ำๆค่ะ มีโอกาสจะเป็นพิษสุนัขบ้ามั้ยคะ กลัวมากๆค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ hakuk,

                         การโดนแมวกัดวันที่ 17 ส.ค. 64 แล้วได้ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าไปในวันเดียวกันนั้น หากผ่านมาจนถึงวันนี้ วัคซีนก็จะกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการเกิดโรคได้แล้ว แม้จะไม่ได้ฉีดเซรุ่มไปก็ตามค่ะ โดยวัคซีนจะกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มได้ภายใน 2 สัปดาห์ ดังนั้น หากผ่านมาเกิน 2 สัปดาห์แล้ว โอกาสเป็นพิษสุนัขบ้าก็ไม่มีแล้วค่ะ แต่ทั้งนี้ ต้องไปฉีดตามกำหนดจนครบ 4 หรือ 5 เข็มด้วยค่ะ 

                         ดังนั้น อาการนอนไม่หลับ คอแห้ง เจ็บคอ มีไข้ต่ำๆ ที่เป็นมา 2 วัน จึงไม่ใช่อาการของโรคพิษสุนัขบ้า แต่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ไข้หวัด คออักเสบ รวมถึงโควิด 19 ด้วย ดังนั้น หากมีประวัติการไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อมา ก็ควรไปตรวจหาโควิด 19 ด้วยค่ะ

                         ในเนเบื้องต้น ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ งดน้ำเย็น พักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ ไม่ทานของทอด ขนมกรุบกรอบ เพราะจะทำให้ยิ่งคอแห้ง เจ็บคอมากขึ้น งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการโดนลม โดนฝน และการอยู่ในที่ที่อากาศเย็น ทานยาบรรเทาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ