ซุมบ้า การเต้นเพื่อสุขภาพ

ซุมบ้า (Zumba) หนึ่งในวิธีการออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยจังหวะเพลงเร้าใจ และท่าเต้นที่ไม่ยากจนเกินไป ซึ่งสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการเต้นแอโรบิกแบบทั่วไป

ซุมบ้า

ซุมบ้าเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกชนิดหนึ่งที่ใช้การเต้นเป็นจังหวะช้าและเร็วสลับกัน โดยการเต้นซุมบ้ามีพื้นฐานมาจากการเต้นเพลงซัลซา ฟลามิงโก และการเต้นในรูปแบบเมอร์แรงเก้ ซึ่งเป็นการเต้นที่นิยมในประเทศแถบละตินอเมริกา ทำให้ผู้เต้นรู้สึกสนุกสนานมากกว่าการออกกำลังกายแบบทั่วไป โดยในการเต้นซุมบ้า ผู้เต้นไม่จำเป็นต้องมีทักษะหรือพื้นฐานในการเต้นมาก่อน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องนับจังหวะเหมือนการเต้นทั่วไป

ซุมบ้าเผาผลาญแคลอรี่ได้เท่าไหร่ ?

การเต้นซุมบ้าสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการเต้นแอโรบิกและการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ คิกบ็อกซิง (Cardio Kickboxing) ซึ่งในการเต้นซุมบ้า 60 นาที สามารถเผาผลาญได้ประมาณ 369 แคลอรี่ และเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแกนกลางร่างกาย อีกทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกายไปได้พร้อม ๆ กัน

ควรออกกำลังกายด้วยซุมบ้าสัปดาห์ละเท่าไหร่ ?

เช่นเดียวกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิกชนิดอื่น ๆ กระทรวงสาธารณสุขของประเทศสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วสามารถออกกำลังกายด้วยการเต้นซุมบ้าได้ถึง 150 นาทีต่อสัปดาห์หากเป็นการออกกำลังกายในระดับปานกลาง และสามารถออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูงสุด (Vigorous Aerobic Activity) ด้วยการเต้นซุมบ้าได้ 75 นาทีต่อสัปดาห์ ทว่าก็ต้องขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้ออกกำลังกายเป็นสำคัญ

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการเล่นซุมบ้า ?

การเต้นซุมบ้าเป็นการออกกำลังกายที่ดี แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับคนบางกลุ่ม เนื่องจากการเต้นนี้อาจส่งผลกระทบต่ออาการเจ็บป่วย ทำให้อาการยิ่งรุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อ หรือผู้ที่เคยมีอาการเจ็บหน้าอกหรือหอบเหนื่อย เพราะการออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอนี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการหรือทวีความรุนแรงของโรคได้ หากไม่แน่ใจว่าตนเองสามารถออกกำลังกายด้วยการเต้นซุมบ้าได้หรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะเริ่มออกกำลังกายด้วยวิธีนี้เพื่อความปลอดภัย

ประโยชน์ของซุมบ้า

นอกจากซุมบ้าจะเป็นการออกกำลังกายที่ให้จังหวะที่เร้าใจและทำให้รู้สึกสนุกแล้ว ซุมบ้าก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่

  • เป็นการออกกำลังกายแบบทั้งร่างกาย สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย การเต้นซุมบ้าจะช่วยบริหารร่างกายหลาย ๆ ส่วนไปพร้อม ๆ กันได้
  • ช่วยในการลดน้ำหนัก การเต้นซุมบ้าช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ ซึ่งสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ หากออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ร่วมกับการควบคุมอาหารจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • เสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย ด้วยท่าเต้นที่กระตุ้นให้ผู้ออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลา สามารถช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยง่าย
  • เสริมสร้างสมรรถภาพการทำงานของหัวใจ ซุมบ้าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจได้ การออกกำลังกายด้วยการเต้นซุมบ้าเป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด และปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายรับและนำไปใช้สูงสุด ซึ่งดีต่อสุขภาพหัวใจของผู้ออกกำลังกาย
  • ควบคุมความดันโลหิต เมื่อหัวใจมีประสิทธิภาพในการทำงานเต็มที่ ก็จะช่วยลดปัญหาความดันโลหิตที่เกิดจากการที่หัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือด ทำให้ความดันโลหิตลดลงจนเป็นปกติได้
  • ลดความเสี่ยงสุขภาพ การเต้นซุมบ้าสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต และลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลชนิดที่ดีในร่างกายมากขึ้น

นอกจากนี้ การเต้นซุมบ้ายังช่วยลดอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน และสามารถปรับเข้าได้กับการออกกำลังกายทุกระดับความเข้มข้น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ที่ออกกำลังกายได้เข้าสังคมมากขึ้นหากไปออกกำลังกายด้วยการเต้นซุมบ้าในคลาสออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการออกกำลังกายให้กับผู้ที่เริ่มออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี

ผลเสียจากการเต้นซุมบ้า

ถึงการเต้นซุมบ้าจะมีประโยชน์มากมายกับสุขภาพ แต่การออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ก็ยังมีข้อเสียอยู่ ที่สามารถเห็นได้ชัดคือ การเต้นซุมบ้าเป็นการเต้นที่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มอันเนื่องมาจากจังหวะเพลง และท่าเต้น นอกจากจากนี้ การเต้นซุมบ้ายังอาจเป็นการออกกำลังกายที่ยากสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างหรือสุขภาพ เพราะอาจทำให้เต้นไม่ทัน จนทำให้รู้สึกไม่สนุก และไม่อยากออกกำลังกายได้

ควรเริ่มเต้นซุมบ้าอย่างไร ?

เมื่อตัดสินใจจะออกกำลังกายด้วยการเต้นซุมบ้าแล้ว ผู้ออกกำลังกายควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายก่อนเพื่อความปลอดภัย และเมื่อเริ่มเต้นซุมบ้า ก็ควรเริ่มต้นจากในระดับง่าย ๆ ก่อน เพื่อให้เคยชินกับการเต้น แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้น ทั้งนี้หากอยากให้การเต้นซุมบ้าได้ประโยชน์กับสุขภาพร่างกายสูงสุด ควรปฏิบัติดังนี้

 

  • อบอุ่นร่างกายก่อนเต้น ก่อนและหลังเต้นซุมบ้าทุกครั้ง ควรอบอุ่นร่างกายและผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกครั้งเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการออกกำลังกาย
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ในการเต้นซุมบ้าควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำให้สะดวกต่อการขยับร่างกายและระบายเหงื่อได้ดี และควรสวมรองเท้าที่สามารถรองรับและป้องกันเท้าจากการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการเต้น
  • พกน้ำดื่มไปด้วยเสมอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำที่เกิดจากการออกกำลังกาย ทุกครั้งที่เต้นซุมบ้าควรพกน้ำดื่มไปด้วย และหมั่นจิบบ่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอตลอดคลาสการเต้น

สตรีมีครรภ์เต้นซุมบ้าได้หรือไม่ ?

การเต้นซุมบ้าเป็นตัวเลือกที่ดีของว่าที่คุณแม่ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ เพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่หนักจนเกินไปแล้ว ก็ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายไปกับเสียงเพลงได้อีกด้วย ทั้งนี้หากคุณแม่ต้องการออกกำลังกายด้วยการเต้นซุมบ้า ก็ควรเริ่มต้นอย่างง่าย ๆ โดยเต้นเท่าที่ตัวเองจะพอไหว และควรปรึกษาผู้สอนเพื่อปรับการออกกำลังกายให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อคุณแม่และทารกในครรภ์มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงท่าที่เสี่ยงต่อการล้มหรือการเกร็งหน้าท้อง หากเกิดความผิดปกติควรหยุดออกกำลังกายและไปพบแพทย์ทันที

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพสามารถเต้นซุมบ้าได้หรือไม่ ?

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพสามารถเต้นซุมบ้าได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และผู้ฝึกสอนมืออาชีพ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาจากการออกกำลังกายนี้ เนื่องจากท่าเต้นซุมบ้าบางท่าอาจส่งผลให้เกิดแรงกดที่ข้อต่อต่าง ๆ หรือส่งผลให้การทำงานของร่างกายผิดปกติได้

โดยหากเป็นผู้ที่มีอาการของโรคข้อต่ออักเสบ หรือมีปัญหาปวดเข่า ปวดหลัง ควรหลีกเลี่ยงท่าเต้นที่ต้องกระโดดหรือย่อตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อต่อต่าง ๆ ได้รับแรงกดมากเกินไป

ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยควบคุมน้ำหนัก และสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี แต่ก็ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนจะเริ่มเล่นเพื่อที่แพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาให้สอดคล้องกันได้อย่างเหมาะสม

หากผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการเต้น เนื่องจากอาจส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ออกกำลังกายอื่น ๆ ที่ปลอดภัยกว่าแทน

การออกกำลังกายทุกชนิดล้วนส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่ก็ต้องออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสมต่อสภาพร่างกายของตนเอง หากหักโหมมากไปก็อาจทำให้อาการเจ็บป่วยยิ่งทรุดลง หรือส่งผลให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้เช่นกัน