แสบจมูกมาก หาหมอแล้ว ใช้ยาพ่นและล้างจมูกแล้ว แต่ยังเจ็บและแสบในโพรงจมูก

สวัสดีค่ะ คุณ Gigi Gigi Gigi,

                   อาการแสบจมูก อาจเกิดจาก

                   1. เป็นไข้หวัด หรือมีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งอาการได้แก่ มีน้ำมูก คัดจมูก แสบจมูก จาม ไอ มีเสมหะ แต่ส่วนใหญจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ หากเป็นมาเป็นเดือนแล้ว ก็ไม่น่าใช่

                   2. โรคภูมิแพ้ ชนิดแพ้อากาศ (allergic rhinitis) จะมีการอักเสบบริเวณโพรงจมูก เนื่องจากแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ อาการได้แก่ มีน้ำมูกใส คันจมูก แสบจมูก และอาจมีอาการคันตา คันจมูก เพดานปาก และลำคอเป็นประจำ อาการจะเป็นแบบเรื้อรังต่อเนื่อง โดยมีช่วงที่ดีขึ้นสลับกับช่วงอาการกำเริบ ทั้งนี้ สารก่อภูมิแพ้ที่อาจเป็นต้นเหตุจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ได้แก่ ฝุ่น ไรฝุ่น ขนนก นุ่น ฝ้าย เชื้อราต่างๆ สัตว์เลี้ยงต่างๆ ทั้ง สุนัข แมว หนู กระต่าย เกสรดอกไม้ ดอกหญ้า ไรฝุ่น แมลงสาบ และแมลงต่างๆ วัสดุเฟอร์นิเจอร์ เช่น ใยมะพร้าว เป็นต้น นอกจากนี้ความเครียดสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการได้ด้วย  

                    3. ไซนัสอักเสบแบบกึ่งเฉียบพลันหรือเรื้อรัง แต่จะทำให้มีน้ำมูกสีเขียวหรือสีเหลืองข้น คัดจมูก การรับกลิ่นไม่ดี มีมูกข้นในลำคอหรือมูกไหลลงลำคอและอาจทำให้ไอ ปวดบริเวณไซนัส ได้แก่ โหนกแก้ม หน้าผาก จมูกตรงระหว่างคิ้ว และหัวตา ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น

                     4. มีริดสีดวงจมูกหรือเนื้องอกในช่องจมูก หรือโพรงไซนัส รวมถึงมะเร็งในช่องจมูก มะเร็งหลังโพรงจมูก มะเร็งในโพรงไซนัส อาการคือมักทำให้การได้กลิ่นลดลง มีน้ำมูกไหลลงคอ คัดจมูก มีปวดหรือเจ็บในโพรงจมูก หรือทำให้ปวดหัวได้

                      หากอาการเป็นมานานเป็นเดือนแล้ว และได้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ รวมถึงทานยาแก้แพ้แล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำควรไปพบแพทย์เฉพาะทางหู-คอ-จมูก เพื่อตรวจเพิ่มเติมว่ามีสาเหตุจากอะไรค่ะ ในเบื้องต้น ก็ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ ไม่โดนอากาศเย็น ใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่น ไม่โดนลม ไม่ดื่มน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ และที่ที่มีฝุ่นละอองมาก โดยอาจใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน หากต้องอยู่ในที่ที่มีฝุ่นมาก เป็นต้น

                     นอกจากนี้ ก็ควรเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เพื่อช่วยลดการกำเริบของอาการ เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะเน้นทานผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงของหวาน อาหารที่มีไขมันสูง และแป้งแปรรูปต่างๆ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น