ถามแพทย์

  • อายุ 13-14 ปี มีอาการเจ็บหู หูอื้อ ได้ยินเสียงเคี้ยวอาหารในหู และเสียงที่เราพูดด้วย

  •  Pimolada
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอายุ13-14 พอดีวันที่ 8-9 เมษายน อะค่ะ หนูมีอาการเจ็บหู หูอื้อ พอกลืน บ้างที่ก็เจ็บ บ้างที่ก็ไม่เจ็บ หนูจะได้ยินเสียง เคี้ยวเศษอาหารในหูด้วยค่ะ รวมถึงเสียงที่เราพูดมันจะได้ยินมาหน่อยๆ ปวดหูข้างขวานะคะ ยังไม่พบจิตแพทย์เลยค่ะಥ╭╮ಥ

    สวัสดีค่ะ คุณ  Pimolada,

                     อาการเจ็บหู หูอื้อ อาจเกิดจาก 

                   1. มีสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในรูหู  เช่น แมลง มด เมล็ดพืช 

                   2. การอักเสบติดเชื้อของรูหูชั้นนอก อาการคือ ปวดหู กดเจ็บบริเวณหน้าใบหู เมื่อดึงใบหูหรือโยกใบหูจะเจ็บมากขึ้น หูอื้อ มีน้ำเหลืองไหลออกมา รูหูบวมแดง

                    3. หูชั้นกลางอักเสบติดเชื้อแบบเฉียบพลัน อาการคือปวดหูมาก มีไข้ การได้ยินเสียงลดลง บางรายอาจมีเวียนหัว คลื่นไส้ หลังจากนั้นอาการปวดและไข้จะลดลง แต่มีหนองไหลจากรูหู ส่วนใหญ่แล้วหูชั้นกลางอักเสบแบบเฉียบพลัน มักเกิดตามหลังการเป็นไข้หวัด

                    4. มีสิวหรือฝีในรูชั้นนอกหู เกิดจากการอุดตันของไขมันและมีเชื้อโรคสะสมจนทำให้เกิดสิวหรือฝี 

                    5. ขี้หูอุดตัน บางรายร่างกายมีการผลิตของขี้หูมากและอาจเกิดการสะสมของขี้หูจนอุดตัน ทำให้ปวดหู ได้ยินเสียงดังในหู หรือเวียนศีรษะได้

                    แต่หากอาการเจ็บหูเป็นไม่มาก แต่มีอาการหูอื้อเป็นหลัก คือการได้ยินเสียงลดลง หรือมีเสียงในหู ซึ่งสาเหตุ อาจเแบ่งได้ดังนี้

                      - การได้ยินของเสียงลดลง เช่น จากการมีขี้หูอุดตัน มีสิ่งแปลกปลอมหรือแมลงเข้าหู หูอื้อที่เกิดหลังจากเป็นหวัด เป็นต้น

                      - มีเสียงแหลมวี้ดๆ  ในหู จะเกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน จากอายุที่มากขึ้น หรือจากการรับฟังเสียงดังเป็นเวลานานๆ หรือจากการได้ยินเสียงดังมาก ในทันที เช่น เสียงระเบิด การใช้ยาบางอย่างที่มีผลข้างเคียงต่อประสาทหู หรือเกิดจากมีเนื้องอกของเส้นประสาทหู

                      - มีเสียงหึ่ง ๆ อื้อ ๆ มักเกิดจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ร่วมกับอาการเวียนหัวบ้านหมุนและการได้ยินลดลง

                      - มีเสียงลมในหู หรือได้ยินเสียงของร่างกายชัดกว่าปกติ เกิดจากการทำงานของท่อปรับความดันหูผิดปกติ เช่น เป็นโรคภูมิแพ้ หรืออาจเกิดจากเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก 

                      - มีเสียงก้องในหู เกิดจากการมีน้ำขังในหูชั้นกลาง

                      - เสียงตุบ ๆ หรือเสียงฟู่ ๆ ที่ดังตามจังหวะการเต้นของชีพจร อาจเกิดจากเนื้องอกในช่องหู หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด ซึ่งเป็นภาวะบางอย่างที่ทำให้เลือดในร่างกายเพิ่มขึ้นและหัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้นจนส่งผลให้เกิดเสียงดังในหู เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ, หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ หัวใจรั่ว เป็นต้น

                       สาเหตุอื่นๆ นอกจากนี้ ได้แก่ การดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ โกโก้ การมีความเครียด วิตกกังวล อารมณ์ซึมเศร้า หรือเกิดจากนอนไม่หลับ เป็นต้น 

                     หากมีอาการปวดหูเป็นหลัก และปวดมากขึ้นเรื่อย แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อรักษา แต่หากมีอาการหูอื้อเป็นหลัก อาการปวดหูแค่เล็กน้อยและเป็นๆ หายๆ แนะนำควรดูแลตามอาการไปก่อน เช่น การลดความเครียดต่างๆ ที่มี การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เป็นต้น หากอาการไม่หายไป ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ