ถามแพทย์

  • หลังมีเพศสัมพันธ์มา 2-3 วัน แล้วมีเลือดออกจากช่องคลอด จะท้องไหม

  •  PPPgoy
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ คือหนูมีอัไรกับแฟนมา2-3วันแล้วตอนนี้มีอาการมีเลือดออกทางช่องคลอดอ่ะค่ะ จะท้องรึป่าวคะ?

    สวัสดีค่ะ คุณ PPPgoy,

                         การมีเลือดออกจากช่องคลอด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 2-3 วัน ไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์แต่อย่างใดค่ะ เพราะอาการเลือดล้างหน้าเด็ก หรืออาการเริ่มแรกของการตั้งครรภ์นั้น จะพบที่ประมาณ 6-12 วัน หลังจากที่มีปฏิสนธิเกิดขึ้นแล้วค่ะ ดังนั้น เลือดที่ออกจึงเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น

                         1. เป็นเลือดประจำเดือน หากเป็นช่วงที่ประจำเดือนใกล้ควรจะมา และมีเลือดออกนาน 2-7 วัน ก็ถือเป็นเลือดประจำเดือนได้

                         2. เลือดออกช่วงไข่ตก หากเลือดที่ออกอยู่ในช่วงกึ่งกลางของรอบประจำเดือน คือประมาณวันที่ 13-15 นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา และออกเพียงแค่ 1 วัน เลือดดังกล่าวก็น่าจะเป็นเลือดออกวันไข่ตกได้

                          3. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                          4. โรคของมดลูก เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีเลือดออกมาอีกเรื่อยๆ

                          5. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น 

                           6. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                           แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน หากเลือดที่ออกมามีปริมาณไม่มาก และเป็นเพียงแค่ 1-2 วัน อาจเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกก็ได้ แต่หากเลือดมีปริมาณมาก และออกนานเกิน 2 วัน โดยที่ไม่ใช่ช่วงที่ประจำเดือนควรจะมา หรือมีปวดท้องน้อยมาก ก็ควรไปพบสูติ-แพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ