ถามแพทย์

  • มีอาการผื่นเต็มตัว หูดหงอนได่ มีเพศสัมพันธ์เสี่ยง ตรวจเลือดผลลย เดือนเมษา มีโอกาสเป็นโรคเอดส์หรือไม่

  •  โบว์ ลิ่ง
    สมาชิก
    คือหนูเป็นสาวสองคะ เทคฮอร์โมน กินเหล้า นอนน้อย แล้วมีเพศสัมพันธ์ทร่มีความเสี่ยงบ่อยๆคะ แต่ผ่านการตรวจเลือดล่าสุดเมษาที่ผ่านมา คือหนูมีอาการผื่นขึ้นตามแขนและขา ตรงบริเวณนอกร่มผ้า คันมาก ต้องเกาจนเป็นแผล พอไม่เกาก็ยุบหายไปเองภายในสองวัน แต่พวกเป็นแผลเป็นอาทิตย์ถึงหาย ตอนนี้เริ่มยุบหมดแล้วคะ กะผ่านมาราวๆสามสัปดาห์แล้ว อีกอย่างหนูเป็นหงอนไก่ที่ก้น เคยจี้เย็นจนหายแล้ว แต่ไม่หายขาด ยังมีติ่งเล็กข้างใน แต่ไม่ลามมาเป็นปีแล้ว หนูมีโอกาศเป็นผู้ป่วยเอดส์มากน้อยแค่ไหนคะ จะได้เตรียมรับมือ และเตรียมตัวถูกถ้าตัวเองเป็น
    สวัสดีค่ะคุณโบว์ การมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงนั้นสามารถติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ได้อาทิเช่นโรคเอดส์ โรคซิฟิลิส โรคหูดหงอนไก่ โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม เป็นต้น ดังนั้นอาการที่เกิดขึ้น สามารถเป็นทั้งอาการของโรคเอดส์ หรือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นได้ ซึ่งอาการผื่นดังกล่าว สามารถเป็นได้หลากหลายสาเหตุด้วยกันค่ะ สามารถเป็นได้ตั้งแต่ผื่นแพ้ปกติผื่นจากโรคซิฟิลิสโดยปกติแล้วผื่น ต่างๆมากมายขึ้นบริเวณฝ่ามือ และฝ่าเท้าผิดไปจากผื่นชนิดนี้ หรือ ผื่นในระยะท้ายของโรคเอดส์ก็เป็นได้ค่ะซึ่งเพียงอาการไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้จำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกายดูชนิดของผื่นร่วมด้วย โดยปกติแล้วการตรวจโรคเอดส์นั้นสามารถตรวจได้หลังจากกิจกรรมเสี่ยงสามเดือนด้วยกันค่ะ ดังนั้นหากคุณโบว์มีกิจกรรมเสี่ยงหลังจาก เดือนมกราคมไปอีกนั้นย่อมมีความเสี่ยงในการติดเป็นโรคเอดส์แน่นอนค่ะแนะนำให้นับจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปอีกสามเดือนทำการตรวจโรคเอดส์อีกครั้งในระหว่างนี้งดเพศสัมพันธ์และกิจกรรมเสี่ยงทุกชนิดเพื่อเป็นการปกป้องตัวเองค่ะ รวมไปถึงลดการแพร่เชื้อไปยังบุคคลข้างเคียงอีกด้วย แนะนำให้คุณโบว์พบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นนอกจากโรคเอดส์และทำการตรวจเลือดเพื่อค้นหาโรคเอดส์ในอีกสามเดือนถัดไปหลังจากเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายค่ะ
    โบว์ ลิ่ง  โบว์ ลิ่ง
    สมาชิก
    แร้วถ้าหนูเป็น หูดหงอนไก่หนูจะขยายเพิ่มมั้ย และถ้าไม่เป็น รอยดำที่ผื่นยุบลงมันจะหายยากมั้ยคะ ตอนนี้ไปไหนลำบากมาก
    หูดหงอนไก่หากได้รับการรักษาแล้วจะยุบลง แต่หากกลับมาเป็นอีกและไม่ได้ทำการรักษามีโอกาสโตขึ้นเรื่อยๆค่ะ เรื่องผื่นแนะนำให้พบแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุก่อนเนื่องจากการหายของผื่นแต่ล่ะชนิดนั้นแตกต่างกันไม่สามารถบอกได้เพียงประวัติค่ะ