-
เลิกกินยาคุมไป 2-3 เดือนแล้ว หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ก็มีเลือดออกกะปริดกะปรอยมา 2 เดือนแล้ว เกิดจากอะไร
-
Aug 26, 2018 at 11:03 AM
รบกวนหน่อยนะคะ คือหนูเคยกินยาคุมแบบ28เม็ดค่ะ แต่เลิกกินไปแล้วได้2-3เดือน พอหนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟนไม่ได้ป้องกัน หลังจากนั้นก็มีเลือดออกกระปริบกระปอย เป็นเกือบจะ2เดือนแล้วค่ะ เกิดจากสาเหตุอะไรคะ แล้วถ้าตรวจภายในค่าใช้จ่ายจะเริ่มต้นที่เท่าไหร่คะAug 27, 2018 at 10:14 AM
สวัสดีค่ะ คุณ Kunlaphan Sitthisak,
หากหยุดทานยาคุมกำเนิดไป 2-3 เดือนแล้ว การมีเลิอดออกกะปริดกะปรอย ก็ไม่น่าเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมค่ะ โดยอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น
1. การตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น แท้งคุกคาม เป็นต้น แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย
2. ผลข้างเคียงจากการใช้ยาฮอร์โมนอื่นๆ เช่น ยาสตรี ยาสมุนไพร อาหารเสริม เป็นต้น หรือใช้ยาบางอย่าง เช่น ยาละลายลิ่มเลือด เป็นต้น
3. มีความผิดปกติที่มดลูก เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก
4. มีมดลูกอักเสบติดเชื้อ หรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ แต่มักมีตกขาวที่ผิดปกติและปวดท้องน้อยร่วมด้วย รวมถึงมีอาการปัสสาวะผิดปกติ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ มีไข้ เป็นต้น
5. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เกร็ดเลือดต่ำ
หากมีเพศสัมพันธ์ แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนค่ะ หากตรวจไม่พบ แต่ยังคงมีเลือดไหลอีกเรื่อยๆ ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ ทั้งนี้ หากมีสิทธิในการรักษา ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาท) หากไปรักษายังโรงพยาบาลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการตรวจค่ะ แต่หากไม่ได้ไปรักษายังโรงพยาบาลที่มีสิทธิ ค่าใช้จ่ายก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาล ซึ่งปกติผู้ป่วยสามารถจะสอบถามได้ ก่อนที่จะพบแพทย์เพื่อตรวจจรักษาค่ะ
-
ถามแพทย์
-
เลิกกินยาคุมไป 2-3 เดือนแล้ว หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ก็มีเลือดออกกะปริดกะปรอยมา 2 เดือนแล้ว เกิดจากอะไร