ถามแพทย์

  • หลังจากหยุดฉีดยาคุมกำเนิด ได้กินยาคุม แล้วหยุดทานยา มีเลือดไหลออกมาตลอด ปริมาณเยอะ เกิดจากอะไร

  •  Small mini
    สมาชิก
    ตอนแรกคือไปฉีดยาคุมมา นี่เป็นการคุมกำเนิดครั้งแรกเลยค่ะ จากที่หาข้อมูลก็คือจะมีเลือดออกกระปริดกระปรอยก็มีตลอดนะคะ จนเดือนเมษายนซึ่งครบกำหนด3เดือนที่หมอนัดไปฉีดเข็มต่อไปก็ไม่ได้ไปฉีดค่ะ หลังจากเดือนเมษาก็มีเลือดออกเท่ากับประจำเดือนเลยค่ะก็เลยลองไปซื้อยาคุมมาทานเลือดก็หยุดค่ะ หลังจาะนั้นก็เลยหยุดกินยาคุมเลือดก็กลับมาไหลเหมือนเดิมจนถึงทุกวันนี้ค่ะ ไหลเยอะมาก แล้วระหว่างที่ไม่ได้กินยาคุมก็มีเพศสัมพนธ์กับแฟนแบบหลั่งในด้วยค่ะ เคยตรวจก็ไม่ตั้งครรภ์ ควรทำอย่างไรดีคะ แล้วเกิดจากอะไรอ่ะคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Small mini,

                       เมื่อได้หยุดฉีดยาคุมกำเนิดและหยุดทานยาคุมกำเนิดไปนานหลายเดือนแล้ว ประจำเดือนก็น่าจะกลับมาเป็นปกติ แต่หากยังคงมีเลือดออกกะปริดกะปรอยตลอด และมามีปริมาณมาก ถือว่ามีอาการผิดปกติ โดยอาจเกิดจาก

                      - เกิดการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น แต่หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้ว ก็ไม่น่าใช่สาเหตุ

                      - การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                      - มีโรคของมดลูก เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                       - มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ

                       - มีโรคอื่นๆ เช่น การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เกร็ดเลือดต่ำ หรือทานยาละลายลิ่มเลือด ใช้ยาต้านการแข็งตัวขแงเลือด เป็นต้น

                      หากยังคงมีเลือดออกมาอยู่ แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจค่ะ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะหากเสียเลือดนานๆ เรื้อรัง แม้จะมีปริมาณไม่มาก ก็อาจเกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้