-
มีเพศสัมพันธ์แล้วมีเลือดออก แล้วหายไป ประจำเดือนมา 17-22 ก.ค. แล้ววันที่ 6-7 ส.ค. มีเลือดออกมาอีก เกิดจากอะไร
-
Aug 08, 2020 at 02:16 PM
ผมมีเพศสัมพันธ์กับภรรยา วันที่ 6 ก.ค. แบบไม่สวมถุงยางอนามัย ไม่ได้หลั่งใน สักพักสวมถุงยางอนามัยและทำจนเสร็จ ตอนที่ทำเสร็จมีเลือดออก น่าจะเป็นเพราะหล่อลื่นไม่พอครับ ฝืนไปหน่อย หลังจากนั้นก็ไม่มีเลือดออกครับ ปกติทุกอย่าง ต่อมาประจำเดือนภรรยามาวันที่ 17-22 ก.ค. ล่าสุด 6-7 ส.ค. ภรรยาบอกผมว่า มีเลือดออกจากช่องคลอดสีน้ำตาลเข้มถึงดำ ไหลออกมาเป็นช่วงๆ จากข้อมูลทั้งหมดนี้ คุณหมอพอจะทราบมั้ยครับว่าเกิดจากสาเหตุใดครับ ขอบคุณมากครับ
Aug 08, 2020 at 02:27 PM
สวัสดีค่ะ คุณ Mustad,
การสอดใส่อวัยวะเพศในช่วงแรก หากไม่ใส่ถุงยางอนามัย และไม่ได้มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มี หลังจากนั้น หากได้ใส่ถุงยางอนามัย และมีเพศสัมพันธ์ต่อ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%-18%
ส่วนเลือดที่ออกมาเล็กน้อยหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ก็อาจเกิดจากการบาดเจ็บของช่องคลอด จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือมีน้ำหล่อลื่นไม่เพียงพอก็ได้ ซึ่งหากเลือดหยุดไหลไปแล้ว ก็ไม่ได้อันตรายอะไร
และหากได้มีประจำเดือนมาในวันที่ 17-22 ก.ค. โดยมาในช่วงวันที่ที่ควรจะมา ก็ถือว่าเป็นประจำเดือนที่ปกติดี และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ
สำหรับเลือดที่ออกมามนวันที่ 6-7 ส.ค. อาจเป็นเลือดที่เกิดจาก
- มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย
- ความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
- ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น
- การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ
- มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ
แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน หากเลือดที่ออกมามีปริมาณไม่มาก และหลังจากนั้นหายไป ก็ไม่น่าอันตรายอะไร อาจเกิดจากการผลิตฮอร์โมนของรังไข่ที่ผิดปกติ แต่หากเลือดออกต่อเนื่องนานหลายวัน หรือมีเลือดออกเป็นๆ หายๆ อีกเรื่อยๆ หรือมีปวดท้องน้อย มีตกขาวที่ผิดปกติ ก็ควรไปพบสูติ-แพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ
-
ถามแพทย์
-
มีเพศสัมพันธ์แล้วมีเลือดออก แล้วหายไป ประจำเดือนมา 17-22 ก.ค. แล้ววันที่ 6-7 ส.ค. มีเลือดออกมาอีก เกิดจากอะไร