มีพยาธิตัวตืดอยู่ในร่างกาย ไปหาหมอ ทานยาแล้ว ยังไม่ดีขึ้น ทำไมยังมีพยาธิอยู่ในร่างกายอีก

 สวัสดีค่ะคุณ เนตรนภา เสถียรรัตน์

พยาธิตัวตืดเป็นพยาธิที่ติดเชื้อในมนุษย์ได้จากการรับประทานเนื้อหมูหรือเนื้อวัวดิบที่มีพยาธิปนอยู่เข้าไป

โดยจะมี 2 ประเภทหลัก

1.การกินพยาธิตัวเต็มวัยเข้าไป พยาธิจะไปอยู่ที่ลำไส้ จะสังเกตได้จากปล้องของพยาธิสีขาวๆที่หลุดออกมากับอุจจาระ ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักลด ถ้ามีจำนวนมากๆอาจจะมาด้วยอาการลำไส้อุดตัน

2.การกินพยาธิตัวตืดระยะตัวอ่อนที่ปนเปื้อนอยู่กับผัก ผลไม้เข้าไป อันนี้จะอันตรายกว่ามาก เพราะตัวอ่อนของพยาธิจะไชเข้าไปในกระแสเลือดและไปเติบโตเป็นถุงน้ำอยู่ในสมองได้ มาด้วยอาการชัก พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ จนถึงแก่ชีิวิต ในบางรายก็อาจจะแค่ไชไปอยู่ตามใต้ผิวหนังคลำได้เป็นก้อน

โดยการรักษาพยาธิตัวตืดคือการใช้ยาฆ่าพยาธิ ถ้าเป็นพยาธิในลำไส้เป็นยารับประทานชื่อ Praziquantel ทานครั้งเดียว ถ้าเป็นพยาธิตัวอ่อนในสมองต้องได้ยาชื่อ Albendazoleแบบฉีด 28 วันค่ะ ถ้าได้รับยาครบตามชนิดของการติดเชื้อที่เป็น ส่วนใหญ่ก็มักจะหาย พยาธิจะไม่ค่อยดื้อยา

ส่วนจะกลับมาเป็นซ้ำหรือไม่ขึ้นกับการปฏิบัติตัว ควรล้างมือก่อนกินอาหารทุกครั้ง ไม่กินผักสดๆที่ยังไม่ล้างเด็ดขาด หากมีอาการเรื้อรังควรกลับไปพบแพทย์เพือยืนยันการวินิจฉัยว่ายังเป็นเรื่องของพยาธิอยู่หรือไม่ค่ะ