ช่วงมีประจำเดือน มักมีอาการปวดท้องน้อย เจ็บเสียดท้อง เกิดจากอะไร ต้องทำอย่างไร

 สวัสดีค่ะ คุณ Chinchutha Phonsiphin,

                   อาการปวดท้องน้อย อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น 

                   -  มดลูกอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ แต่มักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                   -  ลำไส้อักเสบเฉียบพลัน  มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลวร่วมด้วย

                   - หากปวดท้องน้อยด้านขวา อาจเกิดจากไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งอาการปวดจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

                   - กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มัจะมีอาการมีปัสสาสวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะมีเลือดปน เป็นต้น

                   - มีซีสต์หรือเนื้องอกที่มดลูกหรือรังไข่

                  - มีพังผืดในช่องท้อง เช่น จากการเคยผ่าตัดช่องท้องน้อย

                  - ผลข้างเคียงจากการใช้ยาฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นต้น

                   แต่หากอาการปวดท้องน้อยเกิดขึ้นเฉพาะช่วงก่อนหรือขณะมีประจำเดือน ถือเป็นอาการปวดประจำเดือน ซึ่งอาจเป็นอาการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ คือเป็นการปวดประจำเดือนที่ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ มักเริ่มปวดมาตั้งแต่วัยรุ่น อาการปวดไม่มีลักษณะที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือหากไม่เคยปวดประจำเดือนมาก่อนในช่วงวัยรุ่น แต่มาเริ่มปวดเมื่ออายุมากว่า 25 ปีขึ้นไป จะถือเป็นอาการปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ  โดยมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ เช่น มีเนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ มีช็อกโกแลตซีสต์ เป็นต้น

                    แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน หากอาการปวดท้องน้อยเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ