เริ่มกินยาคุมในขณะที่ประจำเดือนไม่ได้มา ตอนนี้มีปะจำเดือนมาในระหว่างที่กินยาเม็ดฮอร์โมนอยู่ มีผลอะไรไหม

สวัสดีค่ะ คุณ ppppssss,

                   โดยปกติ การเริ่มทานยาคุมกำเนิดแผงแรก ควรทานภายใน 1-5 วัน นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา ยาคุมจึงจะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที หากเลย 5 วันไปแล้ว ต้องทานยาต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะออกฤทธิ์ค่ะ

                   เมื่อเริ่มทานยาคุมกำเนิดไปแล้ว ประจำเดือนก็ย่อมจะไม่มา จนกว่าจะทานยาครบ 21 เม็ดและรอไปอีก 2-4 วัน หรือหากเป็นชนิด 28 เม็ด ก็จะมาในช่วงการทานยาเม็ดที่ 23-26 ค่ะ

                   ดังนั้น การมีเลือดออกในระหว่างที่ยังทานยาคุมกำเนิดไม่ครบ 21 เม็ด เลือดดังกล่าว ถือเป็นอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย ที่เป็นผลจากยาคุมกำเนิดได้ โดยเฉพาะยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ หรือเกิดจากากรทานยาไม่ตรงเวล แต่โดยส่วนใหญ่เมื่อทานต่อเนื่องไปซักระยะ เลือดที่ออกจะค่อยๆ น้อยลงจนหายไปเอง

                    ดังนั้น หากเลือดที่ออก มีปริมาณไม่มาก ไม่มีปวดท้องน้อย ก็ให้ทานยาคุมกำเนิดต่อไปตามปกติ และสังเกตเลือดที่ออกต่อไปก่อน

                    แต่หากเลือดที่ออกมีปริมาณมาก และออกติดต่อกันหลายวัน หรือมีปวดท้องน้อยมาก หรือมีตกขาวที่ผิดปกติ อาจไม่ได้เกิดจากผลของยาคุม แต่อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีมดลูกอักเสบ มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแท้งเกิดขึ้น (หากก่อนหน้านั้นมีเพศสัมพันธ์) เป็นต้น ดังนั้นหากมีอาการเช่นนี้ ก็ควรหยุดทานยาคุมกำเนิดและไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ