หยุดกินยาคุมกำเนิด มีเพศสัมพันธ์ และมีเลือดออกกะปริดกะปรอย ประจำเดือนยังไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง

สวัสดีค่ะ คุณ Aoi Ka,

                    การมีเลือดออกหลังจากหยุดทานยาคุมกำเนิดในวันที่ 17, 18, 22 ถือเป็นอาการมีเลือดออกกะปริดกะปรอย ซึ่งอาจเกิดจาก

                   1. ผลจากการหยุดทานยาคุมกำเนิด อาจทำให้รังไข่ยังกลับมาทำงานไม่เป็นปกติได้

                   2.  มีมดลูกอักเสบ แต่มักมีตกขาวที่ผิดปกติและอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย

                 3. ความผิดปกติที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น 

                4. การทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น ภาวะที่มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ  (PCOS) 

                5. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

                 ส่วนการตั้งครรภ์นั้น ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้ เนื่องจากไม่ได้ทานยาคุมกำเนิดแล้ว อย่างไรก็ตาม หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์ในวันที่ 3 พ.ค. แล้วพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่น่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น 

                  หลังจากนี้ ควรสังเกตอาการเลือดออกผิดปกติไปก่อน หากยังคงมีเลือดออกกะปริดกะปรอยอยู่เรื่อยๆ หรือมีปวดท้องน้อย ควรไปพบแทพย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ แตหากไม่มีเลือดออกมาแล้ว ก็ให้รอประจำเดือนไปอีกซักระยะ ซึ่งในระหว่างนี้ ควรใช้ถุงยางอนามัยหากยังไม่ต้องการที่จะตั้งครรภ์ค่ะ หากรอจนถึงช่วงกลางเดือน พ.ค. ประจำเดือนยังไม่มา ควรตรวจการตั้งครรภ์ซ้ำอีกครั้งค่ะ