มีก้อนในทวาร เจ็บเล็กน้อย มีท้องเสียบ่อยมาก เจ็บที่รูทวารเวลาขับถ่าย เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ วิทวัส ทองดี สำรอง,

                    ก้อนในรูทวารหนัก อาจเป็น

              1. ริดสีดวงทวาร เกิดจากการโป่งพองออกของเส้นเลือดดำที่ทวารหนัก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

                - ริดสีดวงชนิดภายใน หากเป็นไม่มาก เราจะมองไม่เห็นเนื่องจากอยู่ในทวารหนัก อาการหลักคือมีเลือดสดไหลออกมาหลังถ่ายอุจจาระ หรือปนมากับอุจจาระ แต่หากเป็นมาก ก็จะเห็นหัวริดสีดวงยื่นออกมาที่รูทวารหนักเวลาที่เบ่งถ่าย แต่มักจะไม่มีอาการเจ็บหรือปวด 

               - ริดสีดวงชนิดภายนอก จะเห็นเป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ำออกมากจากรูทวารหนักเมื่อมีอาการท้องผูกหรือท้องเสียเกิดขึ้น มักไม่ทำให้เกิดเลือดออกเหมือนริดสีดวงภายใน แต่จะทำให้มีอาการเจ็บ หรือปวด หากเกิดการเสียดสีหรือนั่งทับ หากเกิดลิ่มเลือดขึ้นในหลอดเลือดที่โป่งพอง จะทำให้ปวดและเจ็บมากได้

               2. แผลปริขอบทวารหนัก เกิดจากการมีท้องผูกเป็นประจำ การเบ่งถ่าย อุจจาระที่แข็ง ซึ่งหากเป็นเรื้อรัง เยื่อบุผิวรอบๆ แผลที่ทวารหนักนี้จะหนาตัวขึ้น ทำให้มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อขึ้นมาได้ด้วย

              3. หูดหงอนไก่ จะเป็นติ่งเนื้อหรือตุ่มเนื้ออ่อนๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวมักขรุขระ อาจพบติ่งเดียวหรือหลายติ่ง อาจมีอาการคันร่วมด้วยแต่มักไม่มีอาการเจ็บ จะติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์

             4. เป็นติ่งเนื้อธรรมดาของผิวหนังรอบๆ ทวารหนัก มักไม่มีอาการอะไร ถ้ามีขนาดใหญ่เวลานั่งอาจรู้สึกเจ็บ

              5. ก้อนที่ลำไส้ใหญ่หรือบริเวณทวารหนักจากสาเหตุอื่นๆ เช่น เนื้องอกของลำไส้ตรง หรือเนื้องอกทวารหนัก ที่ยื่นออกมาจนพ้นรูทวารหนัก

              หากมีประวัติของการท้องเสียบ่อยๆ อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากมีริดสีดวงทวารภายนอก ดังนั้น ต้องพยายามอย่าให้เกิดอาการท้องผูกหรือท้องเสียต่อเนื่อง หากอาการท้องเสียยังไม่หาย ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษา นอกจากนี้ไม่ควรเบ่งถ่าย ไม่นั่งถ่ายอุจจาระนาน ไม่ยกของหนัก หากมีน้ำหนักตัวมากก็ควรลดน้ำหนัก ไม่มีควรเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก

              หากมีอาการปวดมาก ให้นั่งแช่ในน้ำอุ่นจัดครั้งละ 15-30 นาที วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดบวม และใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร โดยเหน็บวันละ 2-3 ครั้ง

              หากไม่ได้มีการปวดหรือเจ็บ แต่เห็นเฉพาะก้อนเนื้อบวมออกม อาจใช้วิธีประคบด้วยน้ำเย็น ซึ่งอาจช่วยลดอาการบวมลงได้บ้าง

               แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาค่ะ