Ethambutol (อีแทมบูทอล)

Ethambutol (อีแทมบูทอล)

Ethambutol (อีแทมบูทอล) เป็นยารักษาวัณโรค ออกฤทธิ์่โดยช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย หรืออาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

Ethambutol

ยา Ethambutol มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ

เกี่ยวกับยา Ethambutol

กลุ่มยา ยารักษาวัณโรค
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ 
สรรพคุณ รักษาวัณโรคปอด และวัณโรคนอกปอด
กลุ่มผู้ป่วย เด็ก และผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน

คำเตือนในการใช้ยา Ethambutol

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ และแพ้ยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ ทั้งยาที่แพทย์สั่ง ยาที่ซื้อใช้ด้วยตนเอง วิตามิน และสมุนไพร เพราะมียาหลายชนิดที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้
  • แจ้งให้แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทันตแพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้ก่อนเข้ารับการรักษาใด ๆ
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากมีอาการตาบวม มีการมองเห็นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่สามารถอธิบายได้ หรือเป็นโรคเก๊าท์
  • ห้ามใช้ยาติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์สั่ง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อน
  • ระหว่างที่ใช้ยานี้ ผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจเลือดหรือตรวจสุขภาพดวงตาตามที่แพทย์สั่ง
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์ วางแผนมีบุตร หรือกำลังให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของยาก่อนใช้ยานี้

ปริมาณการใช้ยา Ethambutol

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

รักษาวัณโรคปอด และวัณโรคนอกปอด

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 15-25 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 1 ครั้ง หรือ 25-30 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยส่วนใหญ่จะให้รับประทานพร้อมกับยาไอโซไนอาซิด ยาไรแฟมพิน และยาไพราซินาไมด์ ในช่วง 8 สัปดาห์แรกและใช้ยาอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ป่วยที่มีประวัติใช้ยาต้านจุลชีพ ให้รับประทานยาปริมาณ 25 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน เป็นเวลา 60 วัน หลังจากนั้นให้รับประทานยา 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
  • เด็ก รับประทานยาปริมาณ 15-20 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 60 วัน หลังจากนั้นให้รับประทานยาปริมาณ 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

การใช้ยา Ethambutol

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
  • ยานี้อาจต้องใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ จึงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาอย่างละเอียด
  • รับประทานยาพร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ และควรรับประทานยาในเวลาเดิมทุกวัน โดยต้องไม่ลืมใช้ยา เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดทางการรักษา
  • ใช้ยา Ethambutol อย่างต่อเนื่องจนครบตามที่แพทย์สั่ง แม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียมในช่วง 4 ชั่วโมงหลังใช้ยา Ethambutol โดยเฉพาะยาลดกรด เพราะยาลดกรดบางชนิดอาจทำให้ร่างกายดูดซึมยานี้ได้ยากขึ้น
  • หากลืมใช้ยาตามเวลาที่กำหนด ให้ใช้ยาทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงเวลาใช้ยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยารอบต่อไป และไม่เพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
  • หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • ห้ามให้ผู้อื่นใช้ยานี้ และห้ามใช้ยาของผู้อื่น
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากแสงแดดและความชื้น รวมถึงเก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงวิธีเก็บและวิธีกำจัดยาที่ไม่ได้ใช้แล้วอย่างเหมาะสม

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Ethambutol

การใช้ยา Ethambutol อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ อาเจียน ไม่อยากอาหาร ปวดท้อง รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนแรง เป็นต้น หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์

หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา Ethambutol ดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาหรือไปพบแพทย์ทันที

  • อาการแพ้ยา เช่น คัน ผื่นขึ้น ใบหน้าบวม ลิ้นบวม คอบวม เวียนศีรษะรุนแรง มีปัญหาในการหายใจ
  • การมองเห็นเปลี่ยนแปลง เช่น สายตาแย่ลง มองเห็นไม่ชัด ตาบอดสี และประสาทตาอักเสบ เป็นต้น เพราะควรได้รับการตรวจตาทุก 2-4 สัปดาห์
  • มีอาการของโรคตับ เช่น คลื่นไส้ อาเจียนอย่างต่อเนื่อง เหนื่อยหรืออ่อนแรงผิดปกติ ปวดท้องรุนแรง ดีซ่าน เป็นต้น
  • ชาที่แขนหรือขา
  • ปวดข้อหรือนิ้วเท้า
  • ฟกช้ำหรือมีเลือดออกง่ายกว่าปกติ
  • หลอน สับสน
  • มีสัญญาณของการติดเชื้อเพิ่มเติม เช่น มีไข้ เจ็บคอ เป็นต้น

นอกจากนี้ หากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน