การป้องกัน วัณโรค
วัณโรคแม้จะเป็นโรคที่อันตราย แต่ก็สามารถป้องกันได้ โดยวิธีการป้องกันวัณโรคในขั้นพื้นฐานก็คือ การดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ อีกทั้งยังไม่ควรอยู่ใกล้ผู้ป่วยวัณโรคติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ หรือหากจำเป็นต้องอยู่ใกล้ผู้ป่วย ก็ควรป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ วัณโรคยังสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีควัคซีนบีซีจี (BCG)
วัคซีนป้องกันวัณโรค (Bacillus Calmette-Guérin: BCG) ภายในวัคซีนป้องกันวัณโรคจะประกอบไปด้วยเชื้อวัณโรคที่ถูกทำให้เชื้ออ่อนแรงลงในปริมาณเพียงเล็กน้อย กลไกการทำงานของวัคซีนคือ เชื้อที่ฤทธิ์อ่อนลงจะเข้าไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สามารถรับมือกับเชื้อวัณโรคได้
ทั้งนี้ในประเทศไทย วัคซีนบีซีจีจัดเป็นวัคซีนพื้นฐานที่ต้องฉีดให้เด็กแรกเกิดทุกคน โดยเมื่อฉีดแล้วภูมิคุ้มกันจะเกิดหลังจากฉีดไปแล้วภายใน 4-6 สัปดาห์ และสามารถอยู่ได้นาน 10 ปี สามารถป้องกันวัณโรคได้ประมาณ 80% และยังลดความเสี่ยงโรควัณโรคที่เยื่อหุ้มสมองในเด็กได้ แต่ไม่สามารถป้องกันวัณโรคปอดในผู้ใหญ่ ผู้ที่เคยฉีดบีซีจีมาแล้วก็ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นวัณโรคปอดได้
ส่วนในผู้ใหญ่ วัคซีนบีซีจีจะใช้ในกลุ่มคนที่ทำงานในสถานพยาบาล ห้องปฏิบัติการที่ต้องทำงานกับเชื้อโรค ผู้ที่ต้องทำหน้าที่ในการดูแลผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องทำงานในพื้นที่ที่แออัด เช่น เรือนจำ ที่มีอายุต่ำว่า 35 ปี เนื่องจากไม่มีการพบว่าวัคซีนจะได้ผลหรือไม่กับกลุ่มคนที่อายุมากกว่า 35 ปี ทว่าวัคซีนก็ไม่สามารถฉีดให้ได้กับทุกคน เพราะยังมีกลุ่มคนที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้ ซึ่งได้แก่
- ผู้ที่เคยได้รับวัคซีนบีซีจีมาก่อน
- ผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อวัณโรค
- ผู้ที่มีผลการตรวจทางผิวหนังที่ค่อนข้างรุนแรง
- ผู้ที่มีการตรวจพบว่ามีอาการแพ้ส่วนประกอบวัคซีนบีซีจีอย่างรุนแรง
- เด็กแรกเกิดที่อาศัยอยู่กับผู้ที่มีการติดเชื้อวัณโรค
- ผู้ที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ที่รับประทานยาสเตียรอยด์ ผู้ป่วยโรคเอดส์และโรคมะเร็ง
วัคซีนจะถูกให้ด้วยการฉีดที่บริเวณต้นแขนซ้าย และหลังจากฉีดวัคซีนบีซีจีแล้ว จะต้องเว้นระยะการฉีดวัคซีนที่แขนข้างที่ฉีดอย่างน้อย 3 เดือน และหลังจากได้รับวัคซีนแล้ว ผู้ที่ได้รับวัคซีนอาจมีอุณภูมิร่างกายสูงขึ้น และรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว และประมาณสัปดาห์ที่ 2 หลังจากฉีดวัคซีนจะมีตุ่มนูนเกิดขึ้นและแตกออกเป็นแผลเล็ก ๆ ที่มีหนอง อาการจะเป็น ๆ หาย ๆ อยู่ประมาณ 6 สัปดาห์ และหายเป็นปกติ โดยในช่วงนี้การป้องกันของวัคซีนอาจยังไม่เริ่มทำงานจนกว่าอาการต่าง ๆ จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ส่วนในสตรีที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์และอยู่ในช่วงให้นมบุตรก็สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ภูมิคุ้มกันจะทำงานได้ช้าโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ในช่วงแรก