ถามแพทย์

  • อายุ 25 ปี มีอาการปวดเข่ามาก ไปฉีดยามาแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้น

  •  garaget
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ อยากสอบถามเกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อมค่ะ มีรุ่นพี่อายุแค่ 25 ปีแต่เป็นโรคนี้อยู่ เค้ามีอาการปวดที่เข่าทั้ง 2 ข้างมาก เวลาขยับช่วงเข่าจะได้ยินเสียงดังด้วยค่ะ ซึ่งตอนนี้ใช้ประกันสังคมรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง รับยามาหลายเดือนแล้วแต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จนล่าสุดที่ไปพบหมอมาเมื่อวาน พี่เค้าบอกว่าหมอจะให้ยาเซตเดิมมากินอีก (ทั้งๆที่พี่บอกว่ามันแทบไม่ช่วยให้อาการปวดดีขึ้นเลย) ร่วมกับการฉีดยาเข้าที่เข่าเป็นครั้งแรกค่ะแต่หมอฉีดเข้าแค่เข่าข้างขวาข้างเดียว (ทั้งๆที่เจ็บทั้ง 2 ข้าง แต่เจ็บข้างขวามากกว่าไม่รู้ว่าเป็นกระบวนการรักษาของหมอหรือยังไงนะคะ) หลังจากได้รับการฉีดยาพี่เค้าบอกว่ารู้สึกหน่วงๆที่เข่าด้านขวาและมีอาการขมคออยู่ตลอด แค่สักพักอาการขมคอก็หายไปเมื่อได้กินอาหาร แต่อาการหน่วงที่เข่าขวายังมีอยู่ พอรุ่งเช้าต่อมา พี่เค้ารู้สึกปวดที่เข่าข้างซ้ายมากกว่าเดิมอ่าค่ะ หนูเลยถามว่าถ้าให้ระดับความเจ็บเต็ม 10 แต้ม เข่าทั้ง2ข้างอยู่ที่ระดับไหน พี่เค้าตอบว่า เข่าซ้ายปวดระดับ 8 ส่วนเข่าขวาปวดระดับ 5 ค่ะ และเค้ามันจะบ่นว่าปวดอยู่เสมอๆ แค่งอเข่าก็ปวดอ่าค่ะ ยิ่งตอนตื่นมาช่วงเช้าๆจะปวดมากเป็นพิเศษ แล้วบางคืนก็ปวดมากจนไม่สามารถหลับได้ก็มีค่ะ ตอนนี้คือไม่ว่าจะอยู่อริยาบทไหนก็ปวดไปหมดเลยค่ะ จึงอยากสอบถามว่าอาการข้างเคียงขอการได้รับยาโดยวิธีการฉีดเข้าที่เข่านี่มีอาการอย่างไรบ้างคะ? แล้วมีวิธีที่ไหนที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดเหล่านี้ได้มั้ยคะ? และอยากถามอีกว่าควรรักษาต่อไปอย่างไรดีคะ?

    สวัสดีค่ะ คุณ Garaget 

            จากที่ได้อ่านข้อมูลที่ให้มา หมอขออนุญาตแนะนำดังนี้ค่ะ ปกติถ้าผู้ป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม สามารถเกิดได้นะคะ โดยความเสื่อมทั้ง 2 ข้างไม่จำเป็นต้องเท่ากัน อาจจะมีข้างใดข้างหนึ่งเป็นมากกว่า จึงทำให้การรักษาไม่เหมือนกัน แต่เนื่องจากอายุของผู้ป่วยที่เล่ามา อายุยังน้อยอยู่มากเลยค่ะ ดูแล้วไม่น่าจะเป็นข้อเข่าเสื่อมจากการใช้งานตามอายุค่ะ สิ่งที่คุณ Garaget ควรทำคือ ต้องสอบถามกับแพทย์ที่ให้การรักษาอยู่ค่ะ ว่าครไข้ป่วยเป็นโรคใดกันแน่ เพราะถ้าเป็นข้อเข่าเสื่อมจากการใช้งานหรืออายุโดยทั่วไปแพทย์จะเข้าใจว่า เป็นโรค Osteoporosis แต่ทางการแพทย์จริงๆมีโรคข้อเสื่อมอีกหลายประเภทเลยค่ะ เช่น จากภูมิคุ้มกันตนเองทำงานผิดปกติไป หรือจากการติดเชื้อบางประเภทที่ส่งผลให้เกิดความเสื่อมได้ไวขึ้น  ทีนี้พอเป็นคนละโรค การรักษาจริงๆและการพยากรณ์โรคก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ ดังนั้นหากผู้ป่วยและญาติ ต้องการทราบข้อมูลการรักษาและแนวทางการรักษาโรคขั้นต่อไป สามารถพูดคุยกับแพทย์ที่ทำการรักษาอยู่ได้ค่ะ 

             สำหรับอาการปวด ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาแก้ปวดที่แพทย์ได้สั่งจ่ายมาได้เต็มที่เลยค่ะ ทั้งนี้ระวังอาการข้างเคียง เช่น โรคกระเพาะ อันเป็นผลข้างเคียงของยาได้ค่ะ หากกินยาแก้ปวดเต็มที่ตามที่แพทย์สั่งจ่ายมาแล้ว อาการปวดยังไม่ทุเลาลง ก็สามารถแจ้งแพทย์ที่ทำการรักษาเพื่อปรับยาได้ค่ะ

            สำหรับตัวยาที่ฉีดเข้าข้อเพื่อลดอาการปวด จริงๆก็มีใช้อยู่หลายตัวยานะคะ เช่น ยาลดการอักเสบ หรือกลุ่มยา Hyaluronic acid เป็นต้น  หากเป็นยากลุ่มที่ลดการอักเสบที่สารสเตียรอยด์ผสม จะนิยมใช้ฉีดเข้าข้อเพื่อช่วยลดอาการปวดได้ค่ะ โดยหลังฉีดไปไม่นานผู้ป่วยก็จะมีอาการดีขึ้นเลย และช่วยลดความถี่ในการรับประทานยาแก้ปวดลงได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้กลับไปปรึกษาแพทย์ท่านเดิมที่ทำการรักษา หรือขอข้อมูลเพื่อส่งต่อการรักษาในกรณที่ผู้ป่วยต้องการความเห็นในการรักษาเพิ่มค่ะ