ถามแพทย์

  • มีอาการแสบร้อนบริเวณหลัง ไม่มีผดผื่นอะไร กินยามาสองสามวันแล้วยังไม่หาย ควรทำอย่างไร

  •  Thumvadee Rodtook
    สมาชิก
    คุณแม่มีอาการแสบร้อนบริเวณหลัง แต่ไม่มีผดผื่นหรือเม็ดอะไร ไปหาหมอ หมอบอกว่าไม่เป็นปลายประสาทอักเสษก็เป็นงูสวัด ให้ยามากินสองสามวันแล้วยังไม่หาย จะอันตรายมากมั้ยคะ แล้วควรทำยังไง

    สวัสดีค่ะ คุณ Thumvadee Rodtook,

                        อาการรู้สึกแสบร้อนที่ผิวหนัง โดยไม่ได้มีความผิดปกติอะไรที่ผิวหนังหรือมีอะไรมาสัมผัส เรียกว่ามีความรู้สึกสัมผัสผิดปกติหรือความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน (paresthesia) หากอาการที่เกิดขึ้นเป็นเพียงชั่วคราว คือเกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาทีแล้วกลับมาเป็นปกติ ก็ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด อาจเกิดจากเส้นประสาททำงานผิดปกติชั่วตราว แต่ถ้าอาการเกิดขึ้นเรื่อยๆ หรือ เป็นตลอดเวลา อาจเกิดจากมีโรคบางอย่าง เช่น

                       1. โรคปลายประสาทอักเสบที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น ได้รับอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทนั้นๆ เป็นโรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ตนเองชนิดต่างๆ เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคพุ่มพวง เป็นต้น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ติดสุราเรื้อรัง ขาดวิตามินบี 1 บี 6 บี 12 หรือไนอะซิน ได้รับวิตามินดีมากไป เคยเป็นงูสวัดบริเวณนั้น ติดเชื้อ HIV มีเนื้องอกที่เส้นประสาทบริเวณนั้น เป็นผลจากการได้รับยาเคมีบำบัด ได้รับสารพิษหรือโลหะหนัก เป็นต้น

                     2. โรคที่ไขสันหลัง เช่น เนื้องอกที่ไขสันหลัง หรือเคยได้รับอุบัติเหตุที่ไขสันหลัง

                     3. โรคในสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง สมองอักเสบ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เป็นต้น

                     หากทานยาแล้ว อาการไม่ดีขึ้น และไม่หายไป แนะนำให้ไปพบอายุรแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาท เพื่อหาสาเหตุและรักษาให้ตรงกับโรคค่ะ