ถามแพทย์

  • มีตุ่มใสขึ้นที่ปากช่องคลอด แตกเป็นแผล แสบคัน ปวดเวลาปัสสาวะ เป็นเริมไหม แฟนไม่เคยเป็นมาก่อน

  •  Pansh Hsbh
    สมาชิก
    เป็นเริมที่อวัยวะเพศครั้งแรก มีแฟนคนเดียว คบมา 4 ปี ไม่เคยมีตุ้มใสขึ้นที่อวัยวะเพศหรือตามตัวเลย เคยเป็นตกขาวเป็นเชื้อรา แฟนก็ไม่เคยเป็นหรือมีตุ้มใสขึ้นที่อวัยวะเพศ หรือบริเวณอื่นเลย แล้วอยู่ๆก็สังเกตว่ามีตุ้มใสขึ้นที่ปากช่องคลอด แตกเป็นแผล แสบคัน ปวดเวลาปัสสาวะ อยากสอบถามว่า กรณีที่แฟนไม่เคยเป็นเริมเลย แล้วอยู่ๆเราเป็น มีโอกาสที่เกิดจากตัวเราเองได้มั้ย จากการมีตกขาวได้มั้ย จากความสะอาด หรือไม่ได้ติดจากเพศสัมพันธ์ได้มั้ย

    สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้งาน,

                        ตุ่มใส ที่ขึ้นที่ปากช่องคลอด อาจเกิดจาก 

                  1. เริมที่อวัยวะเพศ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยหากฝ่ายชายเคยเป็นเริมที่อวัยวะเพศมาก่อน ก็จะติดจากฝ่ายชายได้ หรือหากไม่เคยเป็นที่อวัยวะเพศ แต่เคยเป็นเริมที่ปาก เมื่อมีการทำออรัลเซ็กส์ ก็จะมีโอกาสติดได้เช่นกัน อาการเริ่มแรกจะมีตุ่มน้ำใสบริเวณอวัยวะเพศ อาจมี 1 ตุ่มหรือหลายตุ่ม มีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวด ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล และมีน้ำเหลืองซึมได้ หากเป็นครั้งแรกอาการจะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ บางรายอาจมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย หรือมีปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย เมื่อเป็นเริมครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะกลับเป็นซ้ำๆ ได้อีกโดยไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์อีก เนื่องจากเชื้อจะอยู่ในรางกายของเราไปตลอดชีวิต โดยอัตราการเป็นซ้ำอาจถี่หรือห่างขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่ประมาณ 4-5 ปีจะกำเริบมา 1 ครั้ง 

                 2. การแพ้สัมผัสหรือระคายเคืองต่อสารเคมีต่างๆ โดยอาจเกิดเกิดเป็นผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใส หรือตุ่มนูนแดงก็ได้ แต่จะไม่แตกออกเป็นแผล มักมีอาการคัน หรือแสบร่วมด้วย 

                  3. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส เริ่มแรกจะเป็นตุ่มนูน แต่ไม่ได้เป็นตุ่มน้ำใส ต่อมาตุ่มจะกลายเป็นแผล แต่แผลจะไม่เจ็บไม่คัน ส่วนโรคแผลริมอ่อน หรือซิฟิลิสเทียม อาการคืออาจเริ่มจากตุ่มเช่นกัน แต่ไม่ได้เป็นตุ่มน้ำใส แล้วแตกออกกลายเป็นแผล ลักษณะของแผลจะดูแฉะไม่สะอาด มีเนื้อเยื่อเละๆ ที่ก้นแผล และรู้สึกเจ็บ ต่อมาต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบจะบวมโต และเจ็บ       

                           หากทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เคยเป็นเริมที่ปาก หรือเริมที่อวัยวะเพศมาก่อน ก็ไม่น่าเป็นโรคเริมค่ะ แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเคยเป็นเริมที่ปากมาก่อน ก็มีโอกาสเป็นเริมที่อวัยวะเพศได้ หากมีการทำออรัลเซ็กส์กันค่ะ ทั้งนี้ เพื่อให้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจ ส่วนในระหว่างนี้ ก็ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าจะหายค่ะ