ถามแพทย์

  • มีไข้ ปวดตามข้อมา 3-4 วัน อาการดีขึ้น วันถัดมามีผื่นแดงเล็กๆ ขึ้นตามแขน หน่า ลำตัว ขา ไม่คัน

  • สวัสดีค่ะคือ เป็นไข้ ตัวร้อน ปวดตามข้อมาประะมาณ3,4วันค่ะอาการดีขึ้น แต่วันถัดมามีผื่นแดงเล็กๆขึ้นแขนทั้งลองข้างลามมาใบหน้าลำตัวขาค่ะแต่ไม่คันค่ะจากบางเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ชีวิตไม่สิ้น ต้องดิ้นต่อไป,

                     อาการมีไข้ ตัวร้อน หลังจากนั้นมีผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง อาจเกิดจาก

                    1. ไข้ออกผื่นจากเชื้อไวรัสชนิดไม่เจาะจง เช่น เกิดจากการติดเชื้อ enterovirus หรือ adenovirus ซึ่งอาการในกลุ่มนี้ไม่มีอาการเฉพาะเจาะจง โดยส่วนใหญ่คือจะมีไข้ แล้วตามการเกิดผื่น ลักษณะผื่น อาจเป็นผื่นราบสีแดง ผื่นนูนสีแดง หรือตุ่มน้ำใสก็ได้

                    2.  โรคหัด อาการคือมีไข้ ตาแดง น้ำมูกไหล ไอแห้ง เจ็บคอ หลังจากนั้น 3-4 วัน จะพบจุดหรือตุ่มสีขาวตรงกระพุ้งแก้ม และจะเกิดผื่นนูนแดงขึ้นในวันที่ 4 ของการมีไข้ แต่จะเริ่มต้นจากบริเวณหลังหูและในบริเวณแนวผม ตามด้วยหน้า ลำตัวและแขนขา เมื่อผื่นถึงเท้า ไข้จะลดลง ดังนัันหากไข้ลดก่อนที่จะเกิดผื่น ก็ไม่น่าใช่โรคหัด

                     3. หัดเยอรมัน อาการคือมีไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ และปวดกล้ามเนื้อ หลังจากนั้น 2-3 วันจะพบผื่นสีแดงตามผิวหนัง โดยเริ่มจากหน้า ตามด้วยลำคอและแขนขา อาจมีต่อมน้ำเหลืองโตโดยเฉพาะที่บริเวณหลังใบหู และท้ายทอย ดังนั้น หากผื่นเริ่มเกิดที่ขาก่อนก็ไม่น่าใช่

                    4. โรคอีสุกอีใส ได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ เบื่ออาหาร หลังจากนั้น 1-2 วัน จะเกิดผื่นแดง โดยจะเริ่มที่ใบหน้าและลำตัวก่อนจะลามไปที่แขน ขา ต่อมาผื่นแดงเหล่านี้จะกลายเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ภายในตุ่ม มักมีอาการคัน หลังจากนั้นจะตกสะเก็ด แล้วค่อยๆ ลอกจางหายภายในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ 

                    5. ไข้เลือดออก มีไข้สูงลอย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และมีจุดเลือดออกสีแดงเล็กๆ ตามผิวหนัง (ไม่ใช่ผื่นที่มีลักษณะนูนสีแดง) นอกจากนี้อาจมีเลือดออกบริเวณอื่นๆ เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล อาเจียนมีเลือดปน หลังจากไข้ลด หากไม่ได้เข้าสู่ระยะช็อก (ระยะที่2) แต่เข้าสู่ระยะพักฟื้น (ระยะที่3) เลย ก็อาจพบมีผื่นแดงเล็กๆ ตามลำตัวได้ และอาจมีอาการคันร่วมด้วย

                       6. หัดกุหลาบ หรือ ส่าไข้ แต่จะพบในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่พบในช่วงอายุ 6-12 เดือน และมากกว่า 95% พบในช่วงไม่เกิน 2 ปี โอกาสที่จะเป็นในผู้ใหญ่นั้นแทบไม่มี และอาการคือจะต้องอาการคือมีไข้สูงลอยนาน 3-5 วัน เบื่ออาหาร หลังจากไข้ลง จะมีเม็ดผื่นสีชมพูคล้ายกับสีดอกกุหลาบขึ้นที่ลำตัวก่อน แล้วกระจายไปที่หน้า และแขนขา ไม่รู้สึกคัน

                       นอกจากนี้ อาจเกิดจากการติดเชื้อ HIV ในระยะเฉียบพลันก็ได้ หากได้ไปมีความเสี่ยงมาในช่วง 2-4 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น

                        แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใด ในเบื้องต้นก็ให้ดูแลรักษาตามอาการไปก่อน เช่น หากมีอาการคัน ก็ให้ทานยาแก้แพ้ เช่น คลอเฟนิรามีน (chlorpheniramine)  ลอราทาดีน (loratadine) เป็นต้น หลีกเลี่ยงการแกะ เกาผื่น หลีกเลี่ยงไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น โดยการไม่ใช่สิ่งของส่วนตัวต่างๆ ร่วมกัน แยกการทานอาหารต่างหาก ไม่นอนเตียงเดียวกัน เป็นต้น