ถามแพทย์

  • เป็นหนองใน หมอให้ยามาทาน อาการไม่ดีขึ้น จึงได้ฉีดยา ผ่านมา 2 วันมีหนองอีก ต้องทำอย่างไร

  •  Hontang
    สมาชิก
    ไปรพ.มาแล้วหมอให้ยา doxycycline 100 mg มากิน 7 วัน แต่ไม่ดีขึ้น แล้วผมไปหาหมอที่เดิม คราวนี้ หมอให้ฉีด cef-3 500 mg มา 1 เข็ม อาการเหมือนจะดีขึ้น ผ่านมา 2 วันยังมีหนองซึม ออกมาอยู่ ปัสวะแสบขัดเล็กน้อย ต้องทำไงดีครับ.?...ขอถามเพิ่มครับ เราดื่มแอลกอฮอล์ได้มั้ย ครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Hontang,

                       หากเป็นหนองในแท้ ซึ่งอาการจะเริ่มจากมีอาการปัสสาวะขัด แสบเวลาปัสสาวะ ต่อมาเริ่มมีมูกใสๆ ไหลซึมออกจากท่อปัสสาวะ แล้วภายใน 12 ชั่วโมงต่อมา จะกลายเป็นหนองข้นสีเหลือง บางรายอาจมีถุงอัณฑะบวมได้ หรือมีการบวมแดงที่หนังหุ้มปลายองคชาตร่วมด้วย ประมาณ 30% ของผู้ที่เป็นหนองในแท้มักติดหนองในเทียมร่วมด้วย

                       ส่วนการรักษา คือ การฉีดยาปฏิชีวนะ ceftriaxone 250 มิลลิกรัม เข้ากล้าม 1 เข็ม ร่วมกับทานยา azithromycin 1 กรัม 1 ครั้ง หากเลือกแต่การทานยา มีโอกาสที่เชื้อจะดื้อยาได้สูง ทำให้การรักษาไม่หายขาดได้ 

                      ดังนั้น การที่เริ่มแรก ได้ทานเฉพาะยา  doxycycline ก็อาจมีโอกาสทำให้ไม่หายได้ และหลังจากนั้น หากได้ฉีดยาปฏิชีวนะ ceftriaxone (cef-3) แต่ไม่ได้ทานยาต่อร่วมด้วย ก็อาจทำให้อาการไม่หายขาดได้ ดังที่เป็นอยู่ค่ะ หรืออาจเป็นเพราะเชื้อมีการดื้อยาค่ะ ดังนั้น หากอาการยังไม่หาย แนะนำควรกลับไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรักษาต่อค่ะ 

                     ในระหว่างที่ยังไม่หายนี้ ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ รวมถึงการรับเชื้อเพิ่ม ซึ่งก็จะทำให้อาการกลับมาเป็นอีกได้ ทั้งนี้ ควรพาฝ่ายหญิงไปรักษาพร้อมกันด้วย เพราะหากฝ่ายหญิงมีเชื้ออยู่ ก็ย่อมแพร่เชื้อกลับมาสู่เราได้อกีค่ะ ส่วนแอลกอฮอล์ ควรงดดื่มจนกว่าจะหาย เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้หนองไหลมากขึ้นได้ค่ะ