ถามแพทย์

  • หลังรักษาซิฟิลิซแล้วจะกลับมาเป็นได้หรือไม่

  •  saharat pansa
    สมาชิก
    ผมเป็นซิฟิลิสเมื่อพฤษภาปี60 ตอนนั้นเป็นระยะที่1(มีแผล) มีค่าเลือด1:8 และปรึกษาหมอ หมอให้ฉีดยาเลยอาทิตย์ละเข็ม รวม3อาทิตย์ จนค่าเลือดเป็น 1:2 และไปพบหมอหมอบอกว่า 3เดือนค่อยมาเช็ค แต่ตอนนี้ผ่านมา2ปี ผมไม่ได้ไปหาหมอ และผมไม่มีอาการอะไรเลยครับ อยากถามว่าจะมีโอกาสเป็นอีกมั้ย ถ้ามี ประมานกี่%ครับ
    saharat pansa  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ saharat pansa

    ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดเกลียว อาการอาจมาด้วยตุ่มแข็งที่อวัยวะเพศ ผื่นตามตัวในช่วงแรก หากปล่อยทิ้งไว้ อาจมีผลต่อระบบหัวใจและประสาท

    การวินิจฉัยใช้การตรวจเลือด คือตรวจระดับภูมิคุ้มกันของร่ายกายต่อซิฟิลิส โดยจะมีระดับค่าความมากน้อยและภูมิคุ้มกันในเลือดที่พบซึ่งจะเก็บไว้ติดตามการรักษา

    การรักษาซิฟิลิสขึ้นกับว่าเป็นระยะใดของโรคซิฟิลิส โดยซิฟิลิสจะมี 4 ระยะ

    -ระยะแรกจะมีแค่แผลที่อวัยวะเพศหรือต่อมน้ำเหลืองโต

    -ระยะสองจะพบผื่นตามร่างกาย มีไข้ต่ำๆ

    -ระยะแฝง คือระยะที่ไม่แสดงอาการ แต่เชื้อจะซ่อนอยู่ในร่างกาย

    -ระยะสี่ คือเริ่มมีอันตรายต่อระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด เกิดหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 3-10 ปี 

    การรักษาคือการให้ยาเพนนิซิลิน จี (Penicilline G) 3 เข็มห่างกัน 1 สัปดาห์ หรือ เข็มเดียวขึ้นกับระยะของโรค หลังการรักษาแพทย์จะนัดกลับมาตามค่าเลือดอีกครั้งว่าลดลงเกิน 4 เท่าหรือไม่ ในกรณีนี้คือเริ่มจาก 1:8 ลงมาเป็น 1:2 หลังการรักษา จึงน่าจะถือว่าการรักษาได้ผล

    หลังจากหายจากโรคแล้ว สามารถกลับมาเป็นใหม่ได้หากมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกันอีก ดังนั้นมีโอกาสจะเป็นใหม่ จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นกับการปฏิบัติตัวและสุขอนามัยทางเพศค่ะ แนะนำใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ