ถามแพทย์

  • หยุดกินยาคุม ต่อมามีเพศสัมพันธ์ หลังจากนั้นมีเลือดออกกะปริดกะปรอย ตกขาว คันช่องคลอด

  •  pattaraponp
    สมาชิก
    กินยาคุมครบแผงวันที่ 11 มิ.ย. 2564 มีประจำเดือนในที่ 15 มิ.ย. 2564 หลังจากมีนี่ประจำเดือนก็หมดวันที่ 20 มิ.ย. 2564และเริ่มต้นหยุดกินยาคุม หลังจากนั้นมีการตกขาวกับในคันในช่องคลอดในวันที่ 21มิ.ย. 2564 เริ่มมีเพศสัมพันธ์กันในวันที่27 มิ.ย.2564 แล้วมีเลือดออกเกิดขึ้น ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์นั้นมีการป้องกันโดยการใส่ถุงยาง แล้วหลังการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 2 วันแรกมีการคันและเลือดออกกระปิดกระปอย ปัจจุบันมีเลือดออกกะปิดกะปอยรวมกับตกขาว และมีอาการคันภายในและภายนอก

    สวัสดีค่ะ คุณ pattaraponp, 

                         หากทานยาคุมกำเนิดหมดไปแล้ววันที่ 11 มิ.ย. และไม่ได้ทานยาคุมต่อ ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็จะหมดลงไป ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 27 มิ.ย. ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น หากมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยผิดปกติ แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนค่ะ หากตรวจไม่พบ การมีเลือดออกผิดปกติ และมีตกขาว ก็อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                         - มีการติดเชื้อในช่องคลอด ซึ่งหากเป็นเชื้อรา ก็มักทำให้มีอาการคันร่วมด้วย หรืออาจเป็นเชื้ออื่นก็ได้ เช่น เชื้อปรสิต เป็นต้น

                         - มีมดลูกอักเสบ

                         - การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติและมีตกขาวได้ แต่ไม่น่าทำให้มีอาการคันช่องคลอด

                         แนะนำว่า หากตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบ แต่ยังคงมีอาการเลือดออกผิดปกติ มีตกขาวที่ผิดปกติอยู่ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อรักษาค่ะ