ถามแพทย์

  • หยุดทานยาคุมกำเนิดไป แล้วมีเพศสัมพันธ์ ไม่มีประจำเดือน แต่มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ท้องไหม

  • สวัสดีค่ะ คุณหมอ มีปัญหาอยากจะปรึกษาคุณหมอค่ะ พอดีว่าทานยาคุมกำเนิด(21เม็ด yasmin) มาประมาณ 6เดือนค่ะ เม็ดสุดท้ายที่ทานคือวันที่ 4 พ.ย ประจำเดือนมาวันที่ 7-13 พย. หลังจากประจำเดือนมาก็หยุดทานยาคุมกำเนิด และมีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งสุดท้าย วันที่ 30 พย. ครั้งแรกใส่ถุงยางตามปกติค่ะ รอบ 2 แฟนไม่ได้ใส่แต่ใช้วิธีหลั่งข้างนอกค่ะ และเดือน ธค. ประจำเดือนจะต้องมาประมาณวันที่ 7ธค. แต่ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ ไม่มีอาการที่คล้ายประจำเดือนจะมาเลยค่ะ (ปวดท้อง คัดเต้านม) แต่ช่วงระหว่าง 7-14 ธค. มีของเหลวออกมามีเลือดออกไม่มากคล้ายๆเลือดออกกระปริบกระปอยค่ะ เหมือนอาการตกขาว ไม่มีกลิ่น ไม่คันค่ะ เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 3-4วันค่ะ ไม่ทราบว่าจะท้องไหมคะ หรือ ว่าเป็นผลของการหยุดทานยาคุมกำเนิดค่ะ ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ วาดวิธู วาด,

                          หากทานยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด แล้วเม็ดสุดท้ายทานในวันที่ 4 พ.ย. แล้ววันที่ 7-13 พ.ย. ได้มีประจำเดือนมา ก็ถือว่าปกติดีค่ะ

                          หลังจากนั้น หากไม่ได้ทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ต่อ ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็จะหมดลงไป ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 30 พ.ย. ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่หากใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยอยู่ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง โดยใช้วิธีการหลั่งนอก โอกาสในการตั้งครรภ์ถือว่ามีได้พอควรค่ะ

                          ส่วนเลือดที่ออกกะปริดกะปรอยในช่วงวันที่ 7-14 ธ.ค. ก็น่าจะเป็นประจำเดือนได้ ซึ่งอาจยังมาไม่เป็นปกติ เนื่องจากเพิ่งหยุดทานยาคุมกำเนิดไปค่ะ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แน่นอน ก็ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูค่ะ หากตรวจไม่พบ ก็แสดงว่าเป็นเลือดประจำเดือนที่ยังมีปริมาณน้อยอยู่ แนะนำให้สะงเกตในเดือนต่อๆ ไปก่อน ซึ่งน่าจะกลับมามีประจำเดือนเป็นปกติค่ะ