หมอบอกเป็นแก้วหูอักเสบ ได้ยาหยอดหู หยอดแล้วรู้สึกหูอื้อกว่าเดิม จะเป็นอะไรไหม แนะนำวิธีการหยอด

สวัสดีค่ะ คุณ Panupong Chaubkrathok,

                   อาการหูอื้อ อาจเกิดจาก

                  - เกิดจากหูอักเสบที่เป็นอยู่ ซึ่งอาการของรูหูชั้นนอกอักเสบ คือ จะมีปวดในรูหู กดเจ็บบริเวณหน้าหู เมื่อดึงใบหูหรือโยกใบหูจะเจ็บมากขึ้น มีหูอื้อ มีน้ำเหลืองไหลออกมา รูหูบวมแดง เป็นต้น

                  - ยาหยอดหูที่หยอดไป ทำให้เกิดมีของเหลวในรูหู ย่อมทำให้เกิดอาการหูอื้อเพิ่มมากขึ้นได้ แต่ก็จะเป็นเพียงชั่วคราว

                   ทั้งนี้ หากไม่มีอาการแสบร้อนในรูหู คันหูมาก เวียนหัวแบบบ้านหมุน มีเสียงดังในหู หรือการได้ยินหายไป ก็ไม่ได้อันตรายอะไร และให้หยอดหูตามที่แพทย์สั่งต่อไปได้ค่ะ แต่หากมีอาการเหล่านี้ ก็ควรงดการหยอดยาไปก่อน เพราะอาจเกิดจากการแพ้ยา หรือมีเยื่อแก้วหูทะลุได้ และไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะ

                    สำหรับวิธีใช้ยาหยอดหูนั้น

                   1. ล้างมือให้สะอาดก่อนการหยอดยา ปรับอุณหภูมิของยาให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกายก่อน หากเก็บยาไว้ในตู้เย็น ควรนำมาตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องซักพัก หรือกำยาไว้ในอุ้งมือจนได้อุณหภูมิพอเหมาะ เพราะยาที่เย็น อาจทำให้มีอาการปวดหูได้ค่ะ 

                  2. เอียงศีรษะให้หูข้างที่จะหยอดยาอยู่ด้านบน หรืออาจใช้วิธีนอนตะแคง หยอดยาเข้าไปในหูตามที่กำหนด ระวังไม่ให้นำหลอดหยดสอดเข้าไปในรูหู

                   3. เอียงตะแคงหูอยู่ในท่าเดิมอย่างน้อย 5-10 นาที

                   4. ก่อนเอียงคอกลับ หรือลุกขึ้น ควรนำสำลีอุดที่ช่องหูชั้นนอกข้างที่หยอดหู เพื่อให้ยาค้างและสัมผัสอยู่ในช่องหู เพื่อให้ยาได้ออกฤทธิ์เต็มที่ และสามารถนำสำลีนี้ออกได้หลังจากผ่านไป 20–30 นาทีหากมียาในช่องหูไหลออกมา ก็ให้เช็ดทำความสะอาดเฉพาะบริเวณรอบหู

                     5. หากมีอาการที่หู 2 ข้าง ก็ให้หยอดทีละข้าง โดยทำตามที่กล่าวไป