ถามแพทย์

  • ประจำเดือนหมดไป 4 วัน มีเพศสัมพันธ์ แล้วมีเลือดออกมา เป็นเพระาอะไร หยุดทานยาคุมไปแล้ว

  •  Sunicha
    สมาชิก
    สวัสดีคะ พอดีประจำเดือนเพิ่งหมดไป 4 วันคะ (รอบเดือนจะมาประมาณ 4วันคะ) และมีอะไรกับแฟนโดยใส่ถุงยางอนามัย ช่วงเที่ยงมีเลือดออกมาคะ พอใส่ผ้าอนามัยมีเลือดติดนิดเดียวคะ จะเป็นอันตรายมั้ยคะ และเพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้คะ เพราะตอนที่ทานยาคุมไม่มีอาการแบยนี้คะ หนูเพิ่งหยุดยาคุมได้ประมาณ 3 เดือนแล้วคะ เพราะหนูทานมาประมาณ 10 ปีแล้ว จึงอยากหยุดทานคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Sunicha,

                       หากประจำเดือนหมดไป  4 วัน แล้วได้มีเลือดออกมาอีก อาจเกิดจาก

                       1. เลือดประจำเดือนที่ค้างอยู่ในมดลูก ซึ่งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ก็จะไปกระตุ้นให้มดลูกบีบตัว เลือดที่ค้างอยู่จึงไหลออกมาได้

                       2. เลือดออกช่วงไข่ตก เลือดจะมีปริมาณเพียงเล็กน้อย และออกแค่ 1 วัน 

                      3. มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น แท้งคุกคาม โดยเลือดที่ออกก่อนหน้านั้น อาจไม่ใช่ประจำเดือนก็ได้

                      4. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                      5. มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่ก้จะต้องมีเลือดผิดปกติออกมาอีกเรื่อยๆ 

                      6. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น    

                      7. การผลิตฮอร์โมนของรไงข่ผิดปกติ

                       หากเลือดออกปริมาณไม่มาก และออกเพียงแค่ 1-2 วัน อาจเป็นประจำเดือนที่ค้างอยู่ หรือเลือดออกช่วงไข่ตกก็ได้ค่ะ แต่หากหลังจากนี้ มีเลือดออกปริมาณมากขึ้น และออกนานเกิน 2 วัน ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ หากตรวจไม่พบ แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ