ถามแพทย์

  • มีตุ่มเล็กๆ และตุ่มแดงๆ ที่ปลายอวัยวะเพศชาย มานาน 2-3. สัปดาห์ เสี่ยงติดเชื้อ HIV ไหม ตรวจแล้วผลเป็นลบ

  •  Baiyai
    สมาชิก
    สวัสดีครับคุณหมอ ขออนุญาตปรึกษาครับ ผมมีลักษณะตุ่มคล้ายเริมที่ปลายอวัยวะเพศ เป็นตุ่มเล็กๆ และตุ่มแดงๆ เป็นนานประมาณ 2-3. สัปดาห์ เป็นๆหายๆ พอจะหายผมก็ช่วยตัวเองจนเสร็จ แล้วน้ำอสุจิก็โดนบริเวณตุ่มๆ จากนั้นก็เห่อขึ้นมาเป็นตุ่มใหญ่ๆถี่ๆแบบนี้เสี่ยงติดเชื้อ HIV ไหมครับ. และผมได้ไปตรวจเลือดที่ รพ.รัฐมาตอนมีความเสี่ยงที่ 28 วัน ผลออกมาเป็นลบ ตอนนี้กังวลมากครับรบกวนคุณหมอให้คำปรึกษาหน่อยครับ
    Baiyai  Baiyai
    สมาชิก
    เพิ่มเติมครับ บริเวณที่เป็นไม่แสบไม่คันไม่มีอาการใดๆเลย มีแต่อาการของตุ่มครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Baiyai,

                        ตุ่มเล็กๆ ตุ่มแดงๆ ที่ปลายอวัยวะเพศ อาจเกิดจาก

                       1. การแพ้สัมผัสหรือระคายเคือง จากสารเคมีที่ไปสัมผัสโดนผิวหนังบริเวณนั้น เช่น แป้ง โลชั่น น้ำหอม รวมถึงถุงยางอนามัย เป็นต้น แต่ก็จะมีอาการคันร่วมด้วย

                       2. ปลายองคชาตอักเสบ (balanitis)  อาจเกิดได้ทั้งจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรืออาจไม่ได้เกิดจากการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เกิดจากการรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศที่ไม่ดี ทำให้มีการติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียตามมา อาการคือผิวหนังที่บริเวณปลายองคชาตจะบวมแดง หรืออาจมีผื่นแดง แต่จะมีอาการเจ็บ คัน หรือระคายเคืองปวดร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีน้ำเหลือง ข้นๆ ออกจากท่อปัสสาวะได้

                     3. pearly penile papules หรือโรคผื่นนูนพีพีพี ไม่จัดเป็นโรค ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เกิดจากหลอดเลือดขององคชาตขยายตัว และมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมาล้อมรอบ ลักษณะเป็นตุ่นนูนผิวเรียบสีเนื้อหรือชมพูอ่อน เรียงกันหลายตุ่มเป็นแถว อยู่บริเวณร่องรอบฐานหัวองคชาต มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน ไม่จำเป็นต้องรักษา 

                      4. หูดหงอนไก่ เกิดจากการติดเชื้อ human papilloma virus ซึ่งติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะคือจะเห็นเป็นติ่งเนื้อนุ่มๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวขรุขระ อาจพบจุดเดียวหรือหลายจุด มักไม่มีอาการคันหรือเจ็บ

                       สำหรับโรคเริมนั้น อาการมักจะหายไปใน 1-2 สัปดาห์ ไม่ได้มีลักษณะเป็นๆ หายๆ และผื่นจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส มีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวด ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล และมีน้ำเหลืองซึม ดังนั้น ตุ่มแดงที่เกิดขึ้นเป็นๆหายๆ จึงม่น่าใช่โรคเริมค่ะ

                       หากตุ่มยังคงเป็นอยู่ ไม่หายไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ

                       ส่วนการตรวจหาการติดเชื้อ HIV หากเป็นการตรวจด้วยวิธี fourth generation การตรวจที่ 28 วันหลังจากไปมีความเสี่ยงมา แล้วผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ได้มีการติดเชื้อ HIV ค่ะ ทั้งนี้ผลที่ได้ถือว่าเชื่อถือได้มากกว่า 99%ค่ะ