ถามแพทย์

  • กินยาคุมมาหลายปี รอบนี้กินยาคุมไปได้ 15 วัน มีเลือดออกมา 3 วัน ไม่ปวดท้อง จะท้องไหม

  •  nuice
    สมาชิก
    ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันที่ 22 สิงหา หลังจากนั้นเริ่มกินยาคุมแผงใหม่วันที่ 24 สิงหาค่ะ กินไปได้ 15 วันเม็ด ฮอร์โมน ปรากฎว่ามีเลือดสีแดงสดบ้างบางครั้งก็สีน้ำตาลค่ะ เป็นมา 3 วันแล้วค่ะ ไม่ปวดรึหน่วงท้องนะค่ะ เป็นแบบใช้แผ่นอนามัยไม่ถึงขั้นใช้ผ้าอนามัย กินยาคุมมากหลายปีแล้ว ไม่ทราบว่าผิดปกติรึป่าวค่ะ มีโอกาสจะท้องรึป่าว

     สวัสดีค่ะ คุณ nuice,

                          การมีเลือดออกขณะทานยาคุมกำเนิดเม็ดที่เป็นฮอร์โมนอยู่นั้น น่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด ที่ทำให้เกิดเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ โดยเฉพาะหากเพิ่งเริ่มทานยาคุม (รวมถึงการหยุดทานยาแล้วมาเริ่มทานใหม่) หรือเป็นยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ ทั้งนี้ ไม่ได้เป็นอาการที่แสดงถึงว่าจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ

                          ดังนั้น แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน หากเลือดที่ออก มีปริมาณไม่มาก เลือดที่ออกมีแนวโน้มที่จะลดลง ไม่มีปวดท้องน้อย ไม่มีตกขาวที่ผิดกติ ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร

                          สำหรับการที่จะตั้งครรภ์หรือไม่นั้น ต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ เมื่อทานยาคุมครบแล้ว หากประจำเดือนไม่มา จึงค่อยตรวจหาการตั้งครรภ์ค่ะ

                          อย่างไรก็ตาม หากเลือดที่ออกมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมีปวดท้องน้อย หรือมีตกขาวที่ผิดปกติ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีติดเชื้อในมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ ก็ควรหยุดทานยาคุมกำเนิดไปก่อน และไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ

    nuice  nuice
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ หลังจากที่ปรึกษาไปรอบที่แล้ว ปรากฎว่ามีเลือดออกจนถึงวันที่ 20 ตุลา แล้วก็หยุดไป ก็เลยกินยาคุมจนหมดแผงในวันที่ 21 ค่ะ แล้วได้เริ่มแผงใหม่ในวันที่ 22 ตุลา ระหว่างที่มีเลือออกมาด้วยนั้นก็ได้ตรวจสอบการการตั้งครรภ์ด้วย แต่ผลปรากฏว่าขึ้นขีดเดียว และตอนนี้ได้เริ่มกินยาคุมแผงใหม่เมื่อวันที่ 22 ตุลา ค่ะ อยากถามว่าการเริ่มแผงใหม่ถูกวิธีรึป่าวค่ะ แล้วจำเป็นต้องตรวจสอบการตั้งครรภ์ อีกรึป่าว