ถามแพทย์

  • หลังมีประจำเดือนมาแล้ว 2 สัปดาห์ ได้มีเลือดสีน้ำตาลออกมาเล็กน้อย เกิดจากอะไร

  •  Phanida Haci
    สมาชิก
    ขอสอบถามค่ะ...พอดีว่ามีเลือดสีน้ำตาลไหลออกมาจากช่องคลอดเล็กน้อยไม่มากค่ะหลังจากที่มีรอบเดือนมาแล้วประมาณ2อาทิตย์ ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Phanida Haci,

                        หากมีประจำเดือนไปแล้ว 2 สัปดาห์ แล้วได้มีเลือดสีน้ำตาลออกมา อาจเกิดจาก

                       1. เลือดออกช่วงไข่ตก หากเลือดที่ออกอยู่ในช่วงกึ่งกลางของรอบประจำเดือน คือประมาณวันที่ 13-15 นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา และมีปริมาณเพียงเล็กน้อย ออกเพียงแค่ 1 วัน เลือดดังกล่าวก็น่าจะเป็นเลือดออกวันไข่ตกได้

                      2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย รวมถึงมีอาการปัสสาวะผิดปกติ

                       3. โรคของมดลูก เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีเลือดออกมาอีกเรื่อยๆ

                       4. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น 

                        5. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                        แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน หากเลือดที่ออกมามีปริมาณไม่มาก และเป็นเพียงแค่ 1-2 วัน อาจเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกก็ได้ แต่หากเลือดมีปริมาณมาก และออกนานเกิน 2 วัน โดยที่ไม่ได้เกิดจากการใช้ยาใดๆ หรือมีปวดท้องน้อยมาก ก็ควรไปพบสูติ-แพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ