ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมา 28 ส.ค.- 2 ก.ย. และวันที่ 20-24 ก.ย. ต่อมาวันที่ 10-11 ต.ค. ได้มีเลือดออกมาอีก ปริมาณไม่มาก เกิดจากอะไร

  • สวัสดีค่ะ พอดีว่ามีประจำเดือน28 สิงหา-วันที่2 กันยาไป เเล้วมีประจำเดือนอีกรอบนิดเดียวเเค่วันที่20 - 24 เดือนกันยาค่ะ เเล้วอยู่ๆวันที่10 เดือนตุลาหลังฉี่เสร็จ ใช้ทิชชูเช็ด เหมือนมีเลือดสีน้ำตาลจางๆเเบบเเค่นิดเดียวเลยติดออกมากับทิชชูค่ะ พอเช้าวันที่11 เดือนตุลา เหมือนมีเลือดที่เป็นสีน้ำตาลออกมาจากช่องคลอดเป็นหยดๆเเค่นิดเดียวตอนฉี่เสร็จอีกค่ะ เเต่ไม่มีอาการปวดท้องหรืออะไรเลย เเละเพิ่งไปตรวจมะเร็งปากมดลูกมาเมื่อเดือนกันยา คือผลปกติค่ะ เเล้วก็มีอาการของรู้สึกเหมือนมีอะไรเต้นที่หน้าท้องนี่คืออะไรเหรอคะ ไม่ทราบว่าเเบบนี้เป็นอะไรได้บ้างคะ ยังไม่กล้าไปหาหมอค่ะ กลัวมากๆเลย รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ (ปกติเป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติด้วยค่ะ)

    สวัสดีค่ะ คุณ ศุภิสรา เครือหมาน,

                      หากประจำเดือนมาวันที่ 28 ส.ค.- 2 ก.ย. แล้ววันที่ 20-24 ก.ย. ได้มีเลือดออกมาอีก ก็น่าจะเป็นเลือดประจำเดือนได้ เพราะอยู่ในช่วงวันที่ที่ประจำเดือนควรจะมา 

                       ส่วนเลือดที่ออกในวันที่ 10 -11 ต.ค. ไม่น่าใช่ประจำเดือน เพราะไม่ได้อยู่ในช่วงวันที่ที่ประจำเดือนควรจะมา ซึ่งเลือดดังกล่าว อาจเกิดจาก

                       - เลือดออกช่วงไข่ตก เลือดที่ออกจะมีปริมาณไม่มาก และมักเป็นแค่ 1 วัน

                       - มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น แท้งคุกคาม เป็นต้น โดยเลือดที่ออกก่อนหน้านั้น อาจไม่ใช่ประจำเดือนก็ได้ แต่เป็นเลือดจากการตั้งครรภ์เหมือนกัน แต่ก็น่าจะมีอาการปวดท้องร่วมด้วย

                      - มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                       - มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น                

                      - ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น    

                       แนะนำควรสังเกตเลือดที่ออกไปก่อน หากเลือดที่ออกมามีปริมาณแค่เล็กน้อย และเป็นเพียงแค่ 1-2 วัน อาจเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกก็ได้ แต่หากเลือดมีปริมาณมาก และออกนานเกิน 2 วัน ก็ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ แต่หากตรวจไม่พบ ก็ควรไปพบสูติ-แพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ