-
มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน กับคนที่มีเชื้อ hiv ที่ทานยาต้านไวรัสมาเกินหนึ่งปี
-
Sep 08, 2017 at 11:05 PM
มีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อ hiv โดยไม่ป้องกัน แต่เค้ากินยาต้านมาเกินหนึ่งปีผมมีโอกาสติดมากไหมครับ แล้วถ้ายังต้องต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนที่มีเชื้อไปตลอด พอจะแนะนำการป้องกันได้มั้ยครับ ในกรณีที่ผมมีเชื้อไวรัสตับอักเสบปีแล้วทานยาต้านไวรัสเหมือนกัน มีโอกาศที่จะติด hiv มากน้อยแค่ไหนหรือมีความเสี่ยงกว่าคนปกติมากมั้ย ด้านไหนบ้างครับSep 09, 2017 at 01:47 PM
สวัสดีครับ HIV เป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ก่อโรคโดยการทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโรคต่างๆได้ง่ายขึ้น ส่วนไวรัสตับอักเสบบีเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งมีผลต่อตับ ทำให้เกิด ตับอักเสบเฉียบพลัน เรื้อรัง ตับแข็ง มะเร็งตับ หรือ ไม่เกิดอาการแต่เป็นพาหะ ทั้ง 2 เชื้อสามารถติดต่อได้หลักๆ 3 ช่องทาง คือ
1. การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย
2. ทางเลือด เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การได้รับเลือดจากผู้ติดเชื้อ ซึ่งในปัจจุบันมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดในเลือดแต่ละถุง ก่อนที่จะมีการให้เลือดกับผู้ป่วย
3. จากแม่สู่ลูก ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการกินยาต้านก่อน-ขณะตั้งครรภ์ และการให้ยาต้านแก่เด็กที่คลอดออกมาแล้ว
จากงานวิจัย HPTN 052 พบว่า การรักษา HIV ลดโอกาสการแพร่เชื้อ 96 % จากการมีเพศสัมพันธ์แบบชาย-หญิง ในผู้ป่วย HIV ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้าน นอกจากนี้จากงานวิจัย PARTNER ไม่พบการแพร่เชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์แบบชาย-หญิง และ ชาย-ชาย ในผู้ป่วยที่มีเชื้อในเลือด (Viral Load) น้อยกว่า 200 เชื้อต่อซีซี และจากการวิจัย Opposites Attract ที่ได้เริ่มไปเมื่อปี ค.ศ. 2014 และ จะสิ้นสุดในปีนี้ จากผลการวิจัยในช่วงต้น ไม่พบการแพร่เชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์แบบชาย-ชาย ในผู้ป่วยที่ไม่พบเชื้อในเลือด
อ้างอิง: http://www.aidsmap.com/Viral-load-and-transmission-a-factsheet-for-people-with-HIV/page/1044617/
ซึ่งการจะทำให้ผู้ป่วยมีเชื้อในเลือดลดลงหรือไม่มีเลย จำเป็นที่จะต้องกินยาต้านอย่างสม่ำเสมอในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนจะตอบสนองต่อยาได้แตกต่างกัน ขึ้นกับทั้งตัวผู้ป่วยเอง สายพันธ์เชื้อที่ติด และ ปัจจัยอื่นๆ
ในการป้องกันการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย เพื่อให้ลดโอกาสการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด ผมแนะนำให้ใส่ถุงยางทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะนอกจากจะป้องกันการติดเชื้อ HIV แล้ว ยังสามารถป้องกันการติดเชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆได้ด้วย
จากหลักฐานในปัจจุบัน ยังไม่พบความเกี่ยวข้องเกี่ยวข้องในการได้รับเชื้อ HIV ในผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังที่ติดเชื้อ HIV ร่วมด้วย มีโอกาสเป็น ตับแข็ง โรคตับระยะสุดท้ายและ มะเร็งตับ ได้เร็วกว่า ผู้ป่วยที่ไม่ติดเชื้อ HIV ขณะที่การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง ไม่มีผลต่อการดำเนินโรคของการติดเชื้อ HIV
อ้างอิง: https://aidsinfo.nih.gov/understanding-hiv-aids/fact-sheets/26/89/hiv-and-hepatitis-b
ส่วนการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจากการมีเพศสัมพันธ์คือการใส่ถุงยางอนามัยเช่นกันครับ
กรณีมีข้อสงสัย หรือ มีอาการผิดปกติ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อให้ได้ข้อมูล และ การรักษาที่ถูกต้องครับ
Sep 09, 2017 at 03:24 PM
แล้วถ้าคนที่เชื้อ hiv ออรัลเซกส์ให้แบบไม่ได้สวมถุงยางอนามัย แต่ตอนมีอะไรกันจริงๆ สวมถุงป้องกัน แบบนี้ผมมีโอกาสรับเชื้อมั้ยครับเพราะมีน้ำลายติดก่อนสวมถุง ชาย-ชายSep 09, 2017 at 04:35 PM
ความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีแบ่งตามลักษณะการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย
เพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก (ฝ่ายรับ): 138 ต่อ 1000 การสัมผัสเชื้อ
เพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก (ฝ่ายรุก): 11 ต่อ 1000 การสัมผัสเชื้อ
เพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด (ฝ่ายรับ): 8 ต่อ 1000 การสัมผัสเชื้อ
เพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด (ฝ่ายรุก): 4 ต่อ 1000 การสัมผัสเชื้อ
เพศสัมพันธ์ทางปาก: ต่ำ
อัตราส่วนความเสี่ยงข้างต้นไม่ได้เก็บข้อมูลแบ่งผู้ป่วยกินยาต้านหรือไม่กินครับ
ในน้ำลายมีเชื้อน้อยมากครับ การจูบ หรือ กินอาหารร่วมกันไม่ทำให้ติดเชื้อครับ
อ้างอิง: https://www.cdc.gov/hiv/risk/estimates/riskbehaviors.html
Sep 11, 2017 at 11:01 PM
แล้วถ้าผมต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนที่มีเชื้อ hiv (ที่กินยาต้านแล้ว)ตลอด โดยมีอะไรกันตลอดเกือบทุกวัน แต่ก็ใช้ถุงยางอนามัย แบบนี้ผมควรจะกินยาแป๊บเพื่อป้องกันไว้มั้ยครับ เผื่อกรณีถุงแตก หรือเผลอมีอะไรแบบไม่ป้องกัน แล้วถ้าต้องกินนริงสามารถหาซื้อยาได้จากไหน หรือมีขั้นตอนยังงัยในการเริ่มกินครับOct 14, 2018 at 08:38 PM
ติดต่อขอเข้าร่วมโครงการรับยาที่คลีนิคนิรนามได้ครับ แต่หมอเขาจะขอตรวจดูก่อนว่าร่างกายเรามีเชื้อไหม -
ถามแพทย์
-
มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน กับคนที่มีเชื้อ hiv ที่ทานยาต้านไวรัสมาเกินหนึ่งปี